วันพฤหัสบดีที่ 16 กรกฎาคม พ.ศ. 2552

รพ.มหาสารคามเร่งสั่งผลิตหน้ากากอนามัย หลังสต๊อกเริ่มขาด!

มหาสารคาม- โรงพยาบาลมหาสารคามเร่งเจ้าหน้าที่ผลิตหน้ากากอนามัย
ป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อโรคไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009
หลังจากพบว่าหน้ากากอนามัยเริ่มขาดแคลน
เพราะมีประชาชนหันมาหาซื้อสวมใส่กันมากขึ้น

นางสาวเสาวลักษณ์ นาคะพงษ์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลมหาสารคาม
เปิดเผยว่า ขณะนี้โรงพยาบาลมหาสารคาม
เริ่มขาดแคลนหน้ากากอนามัยชนิดที่ใช้ครั้งเดียวแล้วทิ้ง
เนื่องจากว่ามีการระบาดของโรคไข้หวัดสายพันธุ์ใหม่ 2009 ขยายวงกว้างออกไป
ทำให้หน้ากากอนามัยเป็นที่นิยม
ประชาชนสวมใส่เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส

ขณะนี้ทางโรงพยาบาลมีเหลืออยู่เพียง 4,000 ชิ้น
แต่ได้สั่งซื้อไปแล้วจำนวน 200,000 ชิ้น
ต้องรอให้ทางตัวแทนจำหน่ายส่งมาให้

การสวมใส่หน้ากากอนามัย
สามารถลดการแพร่กระจายเชื้อที่ติดมากับละอองฝอย ได้ถึงร้อยละ 80 ดังนั้น
หน้ากากอนามัย จึงเป็นเครื่องมืออย่างหนึ่งที่สามารถป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อโรคไข้
หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ได้เป็นอย่างดี
หลังจากมีข่าวการแพร่ระบาดของโรคไข้หวัดสายพันธุ์ใหม่ 2009
ส่งผลหน้ากากอนามัยของทางโรงพยาบาลที่มีมากกว่า 100,000 ชิ้น
หมดอย่างรวดเร็ว

ทำให้โรงพยาบาลมหาสารคามต้องเร่งเจ้าหน้าที่แผนกตัดเย็บ
เย็บหน้ากากอนามัยชนิดผ้าเสริม
โดยเจ้าหน้าที่สามารถเย็บหน้ากากอนามัยได้วันละ 250 ชิ้น
ซึ่งหน้ากากอนามัยผ้าจะมีความทนทาน สามารถซักแล้วนำกลับมาใช้ได้อีก
ราคาถูกเฉลี่ยชิ้นละ 3 บาท
ในขณะที่หน้ากากอนามัยแบบใช้ครั้งเดียวทิ้งราคา 8-10 บาท
เทียบราคาแล้วถูกกว่า 3 เท่า

นางภัควสัญชญ์ ช่ำชอง เจ้าหน้าที่แผนกตัดเย็บ โรงพยาบาลมหาสารคาม
กล่าวว่า ตั้งแต่มีการแพร่กระจายของไข้หวัด 2009
ทำให้เจ้าหน้าที่ต้องเร่งผลิตหน้ากากอนามัยอยู่ตลอดเวลา
โดยขณะนี้ได้สั่งผ้าสาโร
ซึ่งเป็นผ้าวัตถุดิบในการใช้เย็บหน้ากากอนามัยมาเป็นจำนวนมาก
สามารถตัดเย็บได้มากกว่า 5,000 ชิ้น
เพื่อแจกเจ้าหน้าที่และผู้มารับบริการที่โรงพยาบาล
โดยหวังว่าจะช่วยบรรเทาความต้องการใช้ไปได้ในระดับหนึ่ง

อย่างไรก็ตาม โรงพยาบาลมหาสารคามฝากเตือนประชาชน
นอกจากการใช้หน้ากากอนามัยเพื่อลดการแพร่กระจายเชื้อโรค
ปฏิบัติตนให้ถูกต้องตามสุขอนามัยด้วยการล้างมือจนติดเป็นนิสัย
กินอาหารที่ปรุงสุกใหม่ๆ และออกกำลังกายสม่ำเสมอ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น