วันพฤหัสบดีที่ 23 กรกฎาคม พ.ศ. 2552

ชาวมหาสารคามตื่นซื้อสมุนไพร เชื่อป้องกันติดเชื้อหวัดใหญ่ 09

มหาสารคาม - ชาวมหาสารคามตื่นตัวและ
เริ่มให้ความสนใจการใช้สมุนไพรป้องกันการติดเชื้อไข้หวัดใหญ่ 2009
ขณะที่โรงพยาบาลขยายเวลาการให้บริการซึ่งยังคงมีผู้ป่วยต้องสงสัยเข้ารับการ
ตรวจรักษา 24 ชั่วโมง

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า
ที่โรงพยาบาลมหาสารคามได้เปิดช่องทางด่วนสำหรับตรวจรักษาผู้ป่วยต้องสงสัย
ไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 ไว้เฉพาะ พร้อมขยายเวลาในการให้บริการตลอด
24 ชั่วโมง รองรับผู้ป่วยให้เพียงพอแต่ละวันมีผู้เข้ารับการตรวจไม่ต่ำกว่า
300 ราย ล่าสุดพบผู้ป่วยที่ผลตรวจยืนยันเพียง 34 ราย
และนอนพักรักษาตัวที่โรงพยาบาล 7 ราย

หลังจากข่าวการใช้สมุนไพรโดยเฉพาะฟ้าทะลายโจรเผยแพร่ออกไป
มีประชาชนให้ความสนใจเลือกใช้สมุนไพรฟ้าทะลายโจรป้องกันและรักษาไข้หวัดใหญ่
มากขึ้น โดยเภสัชกรประจำโรงพยาบาล
กล่าวถึงสรรพคุณฟ้าทะลายโจรว่าจะเพิ่มภูมิป้องกันโรคไข้หวัดโดยเฉพาะระบบทาง
เดินหายใจ กรณีการป้องกันให้รับประทาน 1-2 แคปซูล
และในกรณีรักษาไข้หวัดให้เพิ่มรับประทาน 2-3 แคปซูล 3 เวลาหลังอาหาร

การรักษาอาการที่ผ่านมาในการให้สมุนไพรฟ้าทะลายโจร
แพทย์จะแนะนำให้ใช้เฉพาะผู้ป่วยในรายที่มีอาการไม่รุนแรง ทั้งนี้
เชื้อไข้หวัดใหญ่ 2009
ที่เกิดการแพร่ระบาดเนื่องจากคนเรายังไม่มีภูมิต้านทานเชื้อโรคใหม่ดังกล่าว
การใช้สมุนไพรฟ้าทะลายโจรเป็นข้อมูลที่ทั่วโลกวิจัยมาตรฐาน
พบว่าสามารถป้องกันไข้หวัดใหญ่เดิมได้

การรับประทานป้องกันโรคขนาด 1-2 เม็ด
หลังอาหารเช้าและสำหรับการรักษาเมื่อติดเชื้อไข้หวัดใหญ่แล้วรับประทาน
เพิ่มจำนวน 2-3 เม็ด หลังอาหาร 3 เวลา
ซึ่งพบว่าฟ้าทะลายโจรจะช่วยป้องกันและลดอาการไข้หวัดใหญ่ที่มีต่อร่างกายคน
เรา โดยมีสารเรียกว่า เอ็นโดกราโฟไลด์ ในฟ้าทะลายโจร ประมาณร้อยละ 6
ที่ลดอาการเป็นไข้หวัดได้ถึง 2 เท่า

ดังนั้น ประชาชนจึงไม่ควรตื่นตระหนก
แต่ควรรู้จักวิธีป้องกันไม่ให้ติดเชื้อก็จะปลอดภัยจากการป่วยด้วยโรคดังกล่าว

นศ.มมส.รอเก้อฟ้าไม่เป็นใจอดดูสุริยุปราคา

มหาสารคาม-ฟ้าไม่เป็นใจ ที่มหาสารคามก็อดดูปรากฏารณ์สุริยุปราคา
นักศึกษาต่างรอเก้อ ต้องรอไปอีก63 ปีค่อยลุ้นยลโฉมกบกินตะวันกันใหม่

ที่คณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหาสารคาม นิสิตจากภาควิชาฟิสิกส์
และจากคณะอื่น ๆ ต่างเดินทางมาูสุริยุปราคาผ่านกล้องดูดาว
ที่ทางมหาวิทยาลัยจัดไว้ให้จำนวน 2 ตัว
และหน้ากากอ๊อกเหล็กที่เตรียมไว้ให้กว่า 10 อัน
ซึ่งบรรยากาศนั้นเป็นไปอย่างคึกคัก แต่ก็ต้องผิดหวัง เพราะท้องฟ้าปิด
มองไม่เห็นดวงอาทิตย์
นิสิตนักศึกษาต่างบ่นเป็นเสียงเดียวกันว่าเสียดายที่มองไม่เห็นปรากฏการณ์สุ
ริยปราคา

ทั้งนี้หากฟ้าโปร่ง
จังหวัดมหาสารคามสามารถเห็นสุริยุปราคาได้ตั้งแต่เวลา 07.07 น.
บังเต็มที่เวลา 08.08 น. ขนาด 58.3%
ซึ่งการเกิดสุริยุปราคาครั้งนี้ถือได้ว่าป็นการเกิดสุริยุปรคาที่ยาวนานที่
สุดในศตวรรษที่ 21 และหากพลาดโอกาสต้องรอไปอีก 63 ปี
ถึงจะได้เห็นอีกครั้งนึ่ง

เป็นที่น่าสังเกตว่า เมื่อถึงเวลาที่ดวงอทิตย์บังเต็มที่ในเวลา
08.08 น. นกที่อาศัยอยู่ตามพุ่มไม้ต้นไม้ใหญ่ต่างบินกรูกันออกจากรัง


http://www.manager.co.th/Local/ViewNews.aspx?NewsID=9520000082659

วันศุกร์ที่ 17 กรกฎาคม พ.ศ. 2552

เทศบาลมหาสารคามรณรงค์ฉีดวัคซีนป้องกันไข้หวัดใหญ่ในกลุ่มเสี่ยง

มหาสารคาม- เทศบาลเมืองมหาสารคาม
ผนึกกำลังสำนักงานสาธารณสุขจังหวัด และโรงพยาบาลมหาสารคาม
จัดรณรงค์ฉีดวัคซีนป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่ในกลุ่มเสี่ยง
โดยเฉพาะผู้สูงอายุ และผู้ป่วยด้วยโรคเรื้อรัง

วันนี้ (15 ก.ค.) ที่อาคารศูนย์กีฬาเยาวชนเทศบาลเมืองมหาสารคาม
นายทองทวี พิมเสน ผู้ว่าราชการจังหวดมหาสารคาม
นำหน่วยงานเทศบาลเมืองมหาสารคาม สำนักงานสาธารณสุขจังหวัด
และโรงพยาบาลมหาสารคาม
ออกหน่วยเคลื่อนที่รณรงค์ฉีดวัคซีนป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่ในกลุ่มเสี่ยงโดย
เฉพาะผู้สงอายุ และผู้ป่วยด้วยโรคเรื้อรัง ในพื้นที่จังหวัดมหาสารคาม
มีอาสาสมัครสาธารณสุข และประชาชนในกลุ่มเป้าหมาย
เข้าร่วมรับฟังบรรยายและฉีดวัคซีนป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่กว่า 500 คน

ในปีงบประมาณ 2552 จังหวัดมหาสารคาม มีเป้าหมายฉีดวัคซีนจำนวน
31,100 ราย ซึ่งได้เริ่มฉีดวัคซีนมาตั้งแต่เดือนกรกฎาคม 2552
ไปจนถึงวันที่ 30 กันยายน 2552 ซึ่งการฉีดวัคซีนป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่
ครั้งนี้เป็นการสร้างเสริมภมิคุ้มกันโรคดังกล่าวได้ ร้อยละ 70 ถึง 90
และมีความปลอดภัยสูง

ทั้งนี้ เน้นให้บริการกับผู้ที่มีโรคเรื้อรัง 7 โรค อาทิ
โรคปอดเรื้อรัง หอบหืด หัวใจ หลอดเลือดสมอง ไตวาย
ผู้ป่วยมะเร็งระหว่างให้เคมีบำบัด และเบาหวาน ล่าสุด
มีผู้ป่วยที่ยืนยันติดเชื้อไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 แล้วจำนวน 31
ราย ซึ่งเป็นผู้ป่วยที่เข้ารับการักษาตัวในพื้นที่จำนวน 22 ราย
และเป็นผู้ป่วยนอกพื้นที่จำนวน 9 ราย และมีผู้เสียชีวิต 1 ราย

มหาสารคามปรับแผนรับมือหวัด 09 ควบคุมพื้นที่ระบาดทำความเข้าใจประชาชน

มหาสารคาม - จังหวัดมหาสารคาม
เรียกประชุมหน่วยงานที่เกี่ยวข้องประเมินสถานการณ์
ปรับแผนรับมือการแพร่ระบาดของโรคไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009
ควบคุมพื้นที่ระบาดและยอดผู้เสียชีวิต
พร้อมวางมาตรการสร้างความเข้าใจกับประชาชนไม่ให้ตื่นตระหนก
และเรีนยรู้วิธีป้องกันตัวจากไข้หวัด 2009

วันนี้ (15 ก.ค.) ที่ห้องประชุม 211 ศาลากลางจังหวัดมหาสารคาม
นายนิพันธ์ ชลวิทย์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดมหาสารคาม
เรียกประชุมเจ้าหน้าที่ปกครองจากทุกอำเภอ
เข้าร่วมหารือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในจังหวัด
เพื่อรับทราบสถานการณ์และปรับแผนรับมือการแพร่ระบาดของโรคไข้หวัดใหญ่สาย
พันธุ์ใหม่ 2009 ไม่ให้ขยายวงและไม่ให้มีผู้เสียชีวิตเพิ่ม

ควบคู่กับมาตรการทำความเข้าใจกับประชาชนในพื้นที่ไม่ให้ตื่นตระหนก
แต่ให้รู้จักวิธีป้องกันตนเองให้ปลอดภัยจากโรค
พร้อมมอบหมายให้สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดมหาสารคาม
ร่วมกับสำนักงานปศุสัตว์จังหวัดมหาสารคาม
นำเจ้าหน้าที่ออกรณรงค์ทำความสะอาด
และฉีดพ่นน้ำยาฆ่าเชื้อโรคครั้งใหญ่แบบปูพรมในระหว่างที่มีการสั่งปิด
โรงเรียน

สำหรับการฉีดพ่นยา จะเน้นห้องเรียนที่มีเครื่องปรับอากาศ
ห้องปฏิบัติการคอมพิวเตอร์ ห้องน้ำ และบริเวณร้านจำหน่ายอาหาร
เพื่อสร้างมั่นใจให้กับผู้ปกครอง ว่า
บุตรหลานจะปลอดภัยจากเชื้อไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009
โดยเฉพาะโรงเรียนอนุบาลมหาสารคาม
โรงเรียนสาธิตมหาวิทยาลัยราชภัฏมหาสารคาม และโรงเรียนสารคามพิทยาคม

ทั้งนี้ สาธารณสุขจังหวัดมหาสารคาม
ฝากเตือนประชาชนให้ตระหนักถึงสุขภาพอนามัยของตัวเอง
ด้วยการล้างมือให้ติดเป็นนิสัย สวมหน้ากากอนามัยเมื่อออกจากทำธุระด้านนอก
หมั่นออกกำลังกาย และรับประทานอาหารที่ปรุงสุกใหม่ๆ
จากข้อมูลล่าสุดพบผู้ติดเชื้อจำนวนทั้งสิ้น 31 คน
เป็นผู้ป่วยนอกพื้นที่จำนวน 9 คน ผู้ป่วยในพื้นที่จำนวน 22 คน
มีผู้ป่วยที่เข้ารับการรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาล 5 คน และมีผู้เสียชีวิต 1
ราย

มมส.เข้ม!! รับมือหวัด 2009 จัด Big Cleaning Day ครั้งใหญ่แบบปูพรม

มหาสารคาม -มหาวิทยาลัยมหาสารคาม ทำความสะอาดครั้งใหญ่ หรือ Big cleaning
day ภายในมหาวิทยาลัยทั้งหมดทุกพื้นที่ ไม่ว่าจะเป็นอาคารเรียน โรงอาหาร
ห้องสมุด ห้องคอมพิวเตอร์ อาคารสำนักงาน อาคารสาธารณะทุกแห่ง
เพื่อรณรงค์ป้องกัน
และแก้ไขปัญหาการแพร่ระบาดของโรคไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009
อย่างเข้มข้นและจริงจัง

ผศ.ดร.ศุภชัย สมัปปิโต อธิการบดีมหาวิทยาลัยมหาสารคาม กล่าวว่า
ตามที่มีการระบาดของโรคไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009
ได้เข้ามาระบาดในพื้นที่จังหวัดมหาสารคามทำให้เกิดความวิตกกังวล ต่อ
คณาจารย์ บุคลากร นิสิต และนักเรียนในมหาวิทยาลัยมหาสารคาม
จึงได้จัดโครงการ Big Cleaning Day ขึ้นเมื่อวานนี้ (15 ก.ค.)
เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของโรคไข้หวัดใหญ่ สายพันธุ์ใหม่ 2009

ทั้งนี้ เพื่อให้คณะ หน่วยงานต่างๆ ได้ทำความสะอาดอาคารสถานที่
อุปกรณ์ที่มีการสัมผัสร่วมกัน ตลอดจนการทำโครงการสื่อรณรงค์
เผยแพร่ข้อมูลข่าวสารให้กับบุคลากร นิสิต นักเรียน
รวมถึงประชาชนที่อยู่โดยรอบมหาวิทยาลัยมหาสารคาม ได้รับทราบถึงสถานการณ์
วิธีการป้องกันไข้หวัดสายพันธุ์ใหม่นี้

ทางมหาวิทยาลัยจะไม่มีการหยุดการเรียนการสอน
เพราะว่าการหยุดการเรียนการสอนนั้น ไม่สามารถที่จะช่วยลดการติดเชื้อได้
เนื่องจากว่า นักเรียน หรือนิสิต ก็ไม่ได้หยุดการทำกิจกรรมต่างๆ
ยังได้ไปพบปะสังคมทั่วไปในที่สาธารณะ
อาจจะมีโอกาสทำให้เกิดการติดเชื้อได้มากขึ้นไปอีก

ดังนั้น จึงขอความร่วมมือและช่วยกันรณรงค์ในการป้องกันตนเอง
รักษาสุขภาพของตนเองให้ปลอดภัย
ก็จะทำให้ภาวะเสี่ยงจากการติดเชื้อไข้หวัดใหญ่ลดน้อยลงได้

แม่ค้าหมูมหาสารคามยันสัปดาห์หน้าราคาเนื้อหมูหน้าเขียงลดแน่

มหาสารคาม-ตลาดสดเทศบาล เมืองมหาสารคาม ร้านจำหน่ายเนื้อสุกรในตลาดสด
พบว่า ราคาเนื้อหมูยังอยู่ที่กิโลกรัมละ 130 บาท
หลังจากที่ราคาเนื้อหมูเคยพุ่งสูงถึงกิโลกรัมละ 140 บาท

นางรัตนาภรณ์ มังกร แม่ค้าในตลาดสดเทศบาลเมืองมหาสารคาม กล่าวว่า
ราคาหมูเื้นื้อแดงจำหน่ายอยู่ที่กิโลกรัมละ 130 บาท
โดยราคจะสูงกว่าเนื้อหมูทางภาคกลางอยู่แล้ว
เพราะมีต้นทุนในเรื่องของค่าขนส่ง
แต่หลังจากที่กรมการค้าภายในให้ปรับลดราคาหมูลง
ทางฟาร์มหมูก็บอกมาว่าสัปดาห์หน้าถึงจะปรับราคาลงได้

เพราะว่าตอนนี้อยู่ระหว่างคุยกันกับฟาร์มหมูต่าง ๆ
ในเรื่องการปรับลดราคาหมู ให้เป็นไปตามที่กรมการค้าภายในกำหนด
ถ้าราคาหมูหน้าฟาร์มปรับลดลง ราคาหมูหน้าเขียงก็จะลดลงเช่นกัน

ส่วนลูกค้าที่มาซื้อหมูที่ร้านก็มีมาต่อว่า ว่า
ทำไมในโทรทัศน์ประกาศให้ลดราคาหมูขายไม่เกินกิโลกรัมละ 115 บาท
แต่ด้วยมีค่าใช้จ่ายในการขนส่งราคาหมูจึงจำหน่ายตามราคที่กำหนดไม่ได้
แต่คาดว่าสัปดาห์หน้า ราคาหมูหน้าฟาร์มจะปรับราคาลง
ส่วนราคาหน้าเขียงราคาอาจลดลงถึงกิโลกรัมละ 10 บาท
โดยราคาจำหน่ายจะอยู่ที่กิโลกรัมละ 120 บาท

วันพฤหัสบดีที่ 16 กรกฎาคม พ.ศ. 2552

รพ.มหาสารคามเร่งสั่งผลิตหน้ากากอนามัย หลังสต๊อกเริ่มขาด!

มหาสารคาม- โรงพยาบาลมหาสารคามเร่งเจ้าหน้าที่ผลิตหน้ากากอนามัย
ป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อโรคไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009
หลังจากพบว่าหน้ากากอนามัยเริ่มขาดแคลน
เพราะมีประชาชนหันมาหาซื้อสวมใส่กันมากขึ้น

นางสาวเสาวลักษณ์ นาคะพงษ์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลมหาสารคาม
เปิดเผยว่า ขณะนี้โรงพยาบาลมหาสารคาม
เริ่มขาดแคลนหน้ากากอนามัยชนิดที่ใช้ครั้งเดียวแล้วทิ้ง
เนื่องจากว่ามีการระบาดของโรคไข้หวัดสายพันธุ์ใหม่ 2009 ขยายวงกว้างออกไป
ทำให้หน้ากากอนามัยเป็นที่นิยม
ประชาชนสวมใส่เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส

ขณะนี้ทางโรงพยาบาลมีเหลืออยู่เพียง 4,000 ชิ้น
แต่ได้สั่งซื้อไปแล้วจำนวน 200,000 ชิ้น
ต้องรอให้ทางตัวแทนจำหน่ายส่งมาให้

การสวมใส่หน้ากากอนามัย
สามารถลดการแพร่กระจายเชื้อที่ติดมากับละอองฝอย ได้ถึงร้อยละ 80 ดังนั้น
หน้ากากอนามัย จึงเป็นเครื่องมืออย่างหนึ่งที่สามารถป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อโรคไข้
หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ได้เป็นอย่างดี
หลังจากมีข่าวการแพร่ระบาดของโรคไข้หวัดสายพันธุ์ใหม่ 2009
ส่งผลหน้ากากอนามัยของทางโรงพยาบาลที่มีมากกว่า 100,000 ชิ้น
หมดอย่างรวดเร็ว

ทำให้โรงพยาบาลมหาสารคามต้องเร่งเจ้าหน้าที่แผนกตัดเย็บ
เย็บหน้ากากอนามัยชนิดผ้าเสริม
โดยเจ้าหน้าที่สามารถเย็บหน้ากากอนามัยได้วันละ 250 ชิ้น
ซึ่งหน้ากากอนามัยผ้าจะมีความทนทาน สามารถซักแล้วนำกลับมาใช้ได้อีก
ราคาถูกเฉลี่ยชิ้นละ 3 บาท
ในขณะที่หน้ากากอนามัยแบบใช้ครั้งเดียวทิ้งราคา 8-10 บาท
เทียบราคาแล้วถูกกว่า 3 เท่า

นางภัควสัญชญ์ ช่ำชอง เจ้าหน้าที่แผนกตัดเย็บ โรงพยาบาลมหาสารคาม
กล่าวว่า ตั้งแต่มีการแพร่กระจายของไข้หวัด 2009
ทำให้เจ้าหน้าที่ต้องเร่งผลิตหน้ากากอนามัยอยู่ตลอดเวลา
โดยขณะนี้ได้สั่งผ้าสาโร
ซึ่งเป็นผ้าวัตถุดิบในการใช้เย็บหน้ากากอนามัยมาเป็นจำนวนมาก
สามารถตัดเย็บได้มากกว่า 5,000 ชิ้น
เพื่อแจกเจ้าหน้าที่และผู้มารับบริการที่โรงพยาบาล
โดยหวังว่าจะช่วยบรรเทาความต้องการใช้ไปได้ในระดับหนึ่ง

อย่างไรก็ตาม โรงพยาบาลมหาสารคามฝากเตือนประชาชน
นอกจากการใช้หน้ากากอนามัยเพื่อลดการแพร่กระจายเชื้อโรค
ปฏิบัติตนให้ถูกต้องตามสุขอนามัยด้วยการล้างมือจนติดเป็นนิสัย
กินอาหารที่ปรุงสุกใหม่ๆ และออกกำลังกายสม่ำเสมอ

วันพุธที่ 15 กรกฎาคม พ.ศ. 2552

นร.ในมหาสารคามนับสิบรายป่วยเป็นไข้-ตัวร้อน หลังกลับร่วมกิจกรรมวัดธรรมกาย

โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 15 กรกฎาคม 2552 10:09 น.
มหาสารคาม - นักเรียนจากโรงเรียนหนองไผ่ด้ามขวาน ต.หนองไผ่
อ.นาดูน จ.มหาสารคาม
หลายสิบคนเข้าตรวจรักษาอาการไข้หวัดที่โรงพยาบาลนาดูน ส่วนใหญ่มีไข้ ไอ
และเจ็บคอ เผยเสี่ยงสูงติดเชื้อหวัดใหญ่ 2009
เพราะกลับจากปฏิบัติธรรมที่วัดพระธรรมกาย

นายพทย์มาริษฏา พิทักษ์ธรรม ผู้อำนวยการโรงพยาบาลนาดูน เปิดเผยว่า
ตั้งแต่เมื่อวันที่ 13 ก.ค.52 ที่ผ่านมา
ผู้ปกรองได้พานักเรียนมาตรวจที่โรงพยาบาลนาดูนจำนวนทั้งสิ้น 17 ราย
เพราะลูกหลานเพิ่งกลับมาจากวัดพระธรรมกาย
และมีอาการป่วยกลัวว่าจะติดเชื้อไข้หวัดสายพันุธุ์ใหม่ 2009 มาจากกรุงเพฯ
จึงพาลูกหลานมาพบหมอ ซึ่งเท่าที่ตรวจอาการพบว่า
เป็นเพียงโรคไข้หวัดธรรมดาเท่านั้น จึงได้จ่ายยา พร้อมหน้ากากอนามัย

ทั้งนี้ ได้กำชับให้รับประทานยาให้ตรงตามเวลา
และให้กลับไปสังเกตอาการที่บ้าน หากอาการไม่ดีภายใน 2 วัน
ให้รีบมาพบแพทย์ทันที ทั้งนี้มีนักเรียน 1 รายเป็นนักเรียนหญิงชั้น .3
ชื่อ ด.ญ.ศิรินทิพย์ ผูกดวง ที่ต้องเฝ้าระวังอย่างใกล้ชิด
เนื่องจากมีอาการมีไข้สูง เจ็บคอ และไม่ยอมรับประทานอาหาร

ด้าน นายบุญเรือง ปินะสา ครูชำนาญการ โรงเรียนหนองไผ่ด้ามขวาน
กล่าวว่า โรงเรียนมีนักเรียนทั้งหมดจำนวน 305 คน
มีนักเรียนที่เดินทางไปร่วมงานที่วัดพระธรรมกายจำนวน 135 คน
ซึ่งหลังจากทราบข่าวว่ามีนักเรียนหลายรายมีอาการไข้หวัด หลังจากที่กลับมา
จึงได้ประกาศให้นักเรียนกลุ่มเสี่ยงดังกล่าวหยุดเรียนได้
แต่ยังไม่ได้ประกาศปิดเรียนแต่อย่างใด
เพราะยังไม่ได้รับผลการตรวจยืนยันที่แน่นอนว่านัักเรียนป่วยเป็นไข้หวัดสาย
พันธุ์ใหม่ 2009 จริงหรือไม่ ใครที่สบายดีก็ให้มาเรียนตามปกติ

แต่ นัักเรียนก็ถือโอกาสหยุดเรียนไปโดยปริยาย
จึงได้้ประสานไปยังสาธารณสุขอำเภอลงพื้นที่
หารือในเรื่องการทำความสะอาดโรงเรียน
และตรวจเยี่ยมนักเรียนที่มีอาการป่วยตามบ้านพักนักเรียนต่อไป

วันอังคารที่ 14 กรกฎาคม พ.ศ. 2552

สั่งปิดโรงเรียนอนุบาลมหาสารคามหลังเด็กป่วยหวัด 2009

โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 13 กรกฎาคม 2552 19:52 น.
มหาสารคาม - สั่งปิดโรงเรียนอนุบาลมหาสารคาม กะทันหัน หลังพบเด็ก
ป.4 และ ป.6 ป่วยไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009

ผู้ปกครองทยอยรับบุตรหลานกลับบ้าน ตั้งแต่ช่วงบ่ายที่ผ่านมา
หลังจากที่ นายสมยศ อันทะลี ผู้อำนวยการโรงเรียนอนุบาลมหาสารคาม
ประกาศปิดเรียนตั้งแต่วันนี้ (13 ก.ค.) ถึงวันจันทร์ที่ 20 กรกฎาคม
เนื่องจากทางสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดมหาสารคามแจ้งให้ทราบว่ามีเด็กนัก
เรียนชั้น ป.4 และ ป.6 ติดเชื้อไข้หวัดสายพันธุ์ใหม่
ขณะนี้กำลังนอนรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาล ซึ่งต้องสังเกตอาการอย่างใกล้ชิด

โดยทางโรงเรียนได้มีการประชุมถึงมาตรการในการเฝ้าระวัง
โดยแบ่งเป็น 2 มาตรการ คือมาตรการแรก คัดกรองเด็กนักเรียนที่มีไข้
ส่วนมาตรการที่สอง คือ ประกาศปิดเรียน ซึ่งทางโรงเรียนอนุบาลมหาสารคาม
มีนักเรียนมากถึง 2,800 คน การคัดกรองอาจไม่มีประสิทธิภาพเท่าที่ควร
จึงได้ประกาศปิดเรียนในวันนี้
เพื่อเป็นการตัดวงจรการแพร่ระบาดของโรคไข้หวัดสายพันธุ์ใหม่ 2009
พร้อมกันนี้ เจ้าหน้าที่สาธารณสุขจะได้ลงพื้นที่วางแผนการทำความสะอาด
ฉีดพ่นน้ำยาฆ่าเชื้อโรคในระหว่างปิดโรงเรียน
เพื่อสร้างมั่นใจให้กับผู้ปกครอง ว่า
บุตรหลานจะปลอดภัยจากเชื้อไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009

อย่าง ไรก็ตาม สาธารณสุขจังหวัดมหาสารคาม
ได้เน้นย้ำให้ประชาชนตระหนักถึงสุขภาพอนามัยของตัวเอง
ด้วยการล้างมือจนให้ติดเป็นนิสัย
สวมหน้ากากอนามัยเมื่อออกจากทำธุระด้านนอก
และรับประทานอาหารที่ปรุงสุกใหม่ๆ
ขณะที่ยอดผู้ป่วยติดเชื้อไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 มีจำนวนทั้งสิ้น
29 คน เป็นผู้ป่วยนอกพื้นที่จำนวน 9 คน ผู้ป่วยในพื้นที่จำนวน 20 คน
และมีผู้ป่วยที่เข้ารับการรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาลจำนวน 3 ราย

วันจันทร์ที่ 13 กรกฎาคม พ.ศ. 2552

เปิดเรียนวันแรกสาธิตมมส.คึก นร.สวมหน้ากากเป็นแฟชั่น-ผอ.มั่นใจปลอดเชื้อแน่

มหาสารคาม - เปิดเรียนวันแรก สาธิต มมส.
นักเรียนส่วนมากสวมหน้ากากอนามัยมาโรงเรียน หวั่นรับชื้อไข้หวัดใหญ่ ด้าน
ผอ.มั่นใจ หลังทำความสะอาดซ้ำถึง 2 รอบปลอดเชื้อแน่
แนะนำนักเรียนล้างมือบ่อย ๆ สวมหน้ากากอนามัยเมื่อเป็นหวัด
ขณะที่รายงานผู้ติดเชื้อไข้หวัดสายพันธุ์ใหม่ 2009 ของจังหวัดมหาสารคาม
ยืนยันแล้วจำนวน 26 ราย

วันนี้(13
ก.ค.)เป็นวันเปิดเรียนวันแรกของโรงเรียนสาธิตมหาวิทยาลัยมหาสารคาม
หลังพบนักเรียนชั้น ม.5 เสียชีวิตจากโรคไข้หวัดสายพันธุ์ใหม่ 2009
จากการติดเชื้อในเวทีคอนเสริต์ที่กรุงเทพฯ ก่อนที่จะกลับมามีอาการไข้
และโรคแทรกซ้อนเป็นเหตุให้เสียชีวิต
ซึ่งทางโรงเรียนได้ประกาศปิดเรียนไปแล้วตั้งแต่วันที่ 3 ก.ค.ี่ผ่านมา

วันนี้เป็นวันเปิดเรียน
นักเรียนต่างทยอยเดินทางมาเรียนตั้งแต่เช้าตรู่
โดยนักเรียนส่วนมากสวมหน้ากากอนามัยมาโรงเรียน
เพราะหวั่นวิตกว่าจะมีเชื้อไข้หวัด 2009 หลงเหลืออยู่
และหน้ากากอนามัยยังกลายเป็นแฟชั่นใหม่สำหรับเด็ก ๆ อีกด้วย

นางจินตนา จิตต์จำนง ผู้อำนวยกาโรงเรียนสาธิตมหาวิทยาลัยมหาสารคาม
เปิดเผยว่า ทางโรงเรียนได้รณรงค์ทำความสะอาดครั้งใหญ่ไปแล้วถึง 2 ครั้ง
และโรงเรียนปิดเรียนนานถึง 10 วัน มั่นใจได้ว่าเชื้อโรคนั้นตายหมดแล้ว
นักเรียนและผู้ปกครองไม่ต้องเป็นกังวล
ซึ่งวันนี้ได้มีการเรียกประชุมครูประจำชั้น ให้แนะนำนักเรียนใน 8
ขั้นตอนกรทำความสะอาดในชั้นเรียน ตลอดจนแจกน้ำผงซักฟอกห้องละ 1 ขวด
เพื่อให้ล้างทำความสะอาดโต๊ะ เก้าอี้ กระจก
และลูกบิดประตูในแต่ละห้องเรียนทุกวัน จนกว่าสถานการณ์จะคลี่คลาย

นอกจากนี้ ยังแจ้งให้ครูประจำวิชาต่าง ๆ
งดสอบเก็บคะแนนในช่วงนี้อีกด้วย ทั้งนี้ นักเรียนที่มีอาการป่วยเป็นไข้
ตัวร้อน ให้หยุดเรียนได้ทันที
โดยให้ผู้ปกครองโทรศัพท์มาแจ้งทางโรงเรียนก็จะไม่ถือว่าเป็นการขาดเรียน

ขณะ ที่รายงานจากสาธารณสุขจังหวัดมหาสารคาม ยืนยันว่า ณ ขณะนี้
มีผู้่ป่วยติดเชื้อไข้หวัดสายพันธุ์ใหม่แล้วจำวน 26 ราย
เป็นผู้ป่วยเข้ารับบริการในพื้นที่ยืนยันจากการส่งตรวจสารคัดหลั่งท่ศูนย์
วิทยาศาสตร์การแพทย์ขอนแก่น จำนวน 17 ราย
และมีผู้ป่วยไปรับบริการนอกเขตพื้นที่จังหวัดมหาสารคามยืนยันพบเชื้อไข้หวัด
ใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 ชนิดA (H1N1) อีก 9 ราย

วันเสาร์ที่ 11 กรกฎาคม พ.ศ. 2552

รพ.บุกเรือนจำป้องกันหวัดใหญ่ฯ ตากที่นอนฆ่าเชื้อโรค

มหาสารคาม- ผู้ต้องขังในเรือนจำ นำที่นอนออกตากแดด เพื่อฆ่าเชื้อโรค
หวั่นไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 ระบาดในเรือนจำ ประกาศงดวันพบญาติ
หวั่นญาตินำเชื้อโรคมาติดผู้ต้องขัง รอสถานการณ์คลี่คลาย
จะเปิดให้เยี่ยมญาติตามปกติ
ขณะที่โรงพยาบาลมหาสารคามลงพื้นที่รณรงค์ให้ความรู้ไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์
ใหม่ 2009 แก่ผู้ต้องขัง

วันนี้ (10 ก.ค.) ที่เรือนจำจังหวัดมหาสารคาม นายแพทย์ไพบูลย์
อัศวธนบดี รอผู้อำนวยการโรงพยาบาลมหาสารคาม
พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่โรงพยาบาลมหาสารคาม
ได้ลงพื้นที่ให้ความรู้กับผู้ต้องขังในเรื่องการป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่สาย
พันธุ์ใหม่ 2009
เนื่องจากขณะนี้เกิดการระบาดของโรคไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ในพื้นที่
และมีผู้เสียชีวิตแล้ว 1 คน

โดยได้ให้เจ้าหน้าที่จากโรงพยาบาลมหาสารคามแนะนำวิธีการล้างมือด้วย
เจลทำความสะอาด และแจกหน้ากากอนามัยแก่ผู้ต้องขัง
เนื่องจากในเรือนจำถือได้ว่าเป็นแหล่งที่มีคนมารวมกันเป็นจำนวนมก
เป็นแหล่งเพาะเชื้อโรคได้ดี

ด้าน นายฤษณ์ พงษ์เวช ผู้บัญชาการเรือนจำ เปิดเผยว่า
เรือนจำจังหวัดมหาสารคามมีผู้ต้องขังทั้งหมด 1,028 คน เป็นผู้ต้องขังชาย
881 คน ผู้ต้องขังหญิง132 คน ผู้ต้องกักขังชาย 9 คน
จากจำนวนผู้ต้องขังที่มากพอสมควร และเป็นสถานที่แออัด
อาจเป็นแหล่งเชื้อโรค จึงได้ให้ผู้ต้องขังนำที่นอน ออกมาตากแดด
และทำความสะอาดเรือนนอน ด้วยการให้ผ้าชุบน้ำผงซักฟอก เช็ดถูพื้น
และตามฝาผนัง เพื่อฆ่าเชื้อโรค หากมีผู้ต้องขังมีอาการไอ จม มีไข้
ต้องรีบแจ้งเจ้าหน้าที่เรือนจำ

ในส่วนของญาติที่มาเยี่ยมผู้ต้องขัง
จะมีเจ้าหน้าที่คัดกรองอีกชั้นหนึ่ง หากญาติผู้ต้องขังป่วย ตัวร้อน
ก็ขอความร่วมมืออย่าเพิ่งเข้าเยี่ยมผู้ต้องขัง
เพราะอาจแพร่เชื้อมาสู่ผู้ต้องขังได้ อีกทั้งยังได้ประกาศงดวันพบญาติ
ซึ่งจะจัดขึ้นทุกวันพุธกลางเดือนของทุกเดือน เพื่อเป็นการป้องกันไว้ก่อน
จนกว่าสถานการณ์โรคไข้หวัดสายพันธุ์ใหม่ 2009 จะคลี่คลาย

สาธิต มมส.เร่งฆ่าเชื้อหวั่นหวัดมรณะหลังเซ่น นร.แล้ว 1 - หวั่นลามจับตาผู้ป่วยต้องสงสัยใกล้ชิด

มหาสารคาม - โรงเรียนสาธิตมหาวิทยาลัยมหาสารคาม
สั่งปิดเรียนหลังนักเรียนชั้น ม.6 เสียชีวิตจากโรคไข้หวัดสายพันธุ์ใหม่
2009 ด้านโรงเรียนร่วมสาธารณสุขรณรงค์ทำความสะอาดโรงเรียนเพื่อฆ่าเชื้อโรค
เผยผู้ตายป่วยหลายโรค และก่อนตายไปดูคอนเสริต์ดงบังชิงจิที่กรุงเทพฯ
ก่อนติดเชื้อกลับมาเสียชีวิต ขณะที่ มมส.เฝ้าระวังสถานการณ์ใกล้ชิด
หากพบผู้ป่วยต้องสงสัยพร้อมปิดเรียน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (9 ก.ค.)
ที่โรงเรียนสาธิตมหาวิทยาลัยมหาสารคาม (สาธิต มมส.)
ได้มีการรณรงค์ทำความสะอาดครั้งใหญ่ หรือบิ๊กคลีนนิ่งเดย์
หลังจากที่มีเด็กนักเรียนติดเชื้อไข้หวัดสายพันธุ์ใหม่ 2009
เข้ารักษาตัวที่โรงพยาบาลมหาสารคาม และส่งต่อไปที่โรงพยาบาลศรีนครินทร์
เมื่อวันที่ 3 ก.ค.52 จากนั้นเสียชีวิตในวันที่ 7 ก.ค. ที่ผ่านมา

โดยทางโรงเรียนสาธิตมหาวิทยาลัยมหาสารคาม
ได้สั่งปิดเรียนไปแล้วตั้งแต่วันศุกร์ที่ 3 ก.ค. 52
มีเจ้าหน้าที่สาธารณสุขจังหวัดลงพื้นที่และได้ตรวจคัดกรองเด็กนักเรียน
โดยขณะนี้อยู่ในข่ายเฝ้าระวังจำนวน 35 คน ซึ่งในจำนวนนี้มี 10
รายที่ต้องเฝ้าระวังอย่างใกล้ชิด
ซึ่งขณะนี้ได้มีการผลตรวจยืนยันจากทางห้องปฏิบัติการแล้วว่ามีผู้ป่วยติด
เชื้อไข้หวัดสายพันธุ์ใหม่ 2009 ในจังหวัดมหาสารคามแล้วจำนวน 7 ราย

โดยในวันนี้ได้เจ้าหน้าที่จากสาธารณสุขจังหวัดมหาสารคาม
ร่วมกับโรงพยาบาลกันทรวิชัย คณะแพทยศาสตร์มหาวิทยาลัยมหาสารคาม
ลงพื้นที่ร่วมประชุมครู เจ้าหน้าที่และภารโรง
ให้ความรู้เรื่องไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009
ก่อนรณรงค์ทำความสะอาดอีกครั้งเป็นครั้งที่ 2
เพื่อเตรียมใช้พื้นที่เป็นสนามสอบ Gattpat ในวันเสาร์-อาทิตย์นี้
ซึ่งจะทำการสอบพร้อมกันทั่วประเทศ
และให้นักเรียนและผู้ปกครองที่มาสอบมั่นใจว่าปลอดภัยจากเชื้อโรค

ด้าน ผศ.จินตนา จิตต์จำนง
รักษาการผู้อำนวยการโรงเรียนสาธิตมหาวิทยาลัยมหาสารคาม เปิดเผยว่า
ผู้เสียชีวิตชื่อนางสาวลักษมน สัจจพงษ์ เรียนอยู่ชั้น ม.6/4 อายุ 19 ปี
ได้เดินทางไปสอบความถนัดของจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ที่เมืองทองธานี
จากนั้นได้ไปดูคอนเสิร์ตศิลปินเกาหลี ดงบังชินจิ
ก่อนที่จะติดเชื้อกลับมาที่บ้าน และเสียชีวิตที่โรงพยาบาลศรีนครินทร์
จังหวัดขอนแก่น

ทั้งนี้ นางสาวลักษมน มีโรคประจำตัวมาก ทั้งเบาหวาน ภูมิแพ้
โรคหนังแข็ง และยังมีภาวะโรคอ้วน น้ำหนักมากถึง 100 กิโลกรัม
ต้องเข้าการรักษาที่โรงพยาบาลทุกเดือน
ซึ่งพอได้รับเชื้อไข้หวัดสายพันธุ์ใหม่ 2009
มาแล้วมีอาการแทรกซ้อนเป็นเหตุให้เสียชีวิต ซึ่งทางโรงเรียนฯ
ได้มีการรณรงค์ทำความสะอาดไปแล้ว 1 ครั้ง ครั้งนี้เป็นครั้งที่ 2
มีการระดมเจ้าหน้าที่ ครู และภารโรง ตลอดจนเจ้าหน้าที่สาธารณสุขจังหวัด
เจ้าหน้าที่จากโรงพยาบาลกันทรวิชัย และแพทย์จากคณะแพทยศาสตร์
มหาวิทยาลัยมหาสารคาม มาประชุมให้ความรู้เรื่องไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่
2009 และทำความสะอาดโรงเรียนอีกครั้งหนึ่ง
โดยใช้ผ้าชุบน้ำผงซักฟอกเช็ดทำความสะอาดกระจก โต๊ะ เก้าอี้ ลูกบิดประตู
เพื่อฆ่าเชื้อโรค และเพื่อเตรียมใช้พื้นที่เป็นสนามสอบ Gattpat
ในวันเสาร์-อาทิตย์นี้ ซึ่งจะทำการสอบพร้อมกันทั่วประเทศ
และให้นักเรียนและผู้ปกครองที่มาสอบมั่นใจว่าปลอดภัยจากเชื้อโรค

โดยทางโรงเรียนสาธิตมหาวิทยาลัยมหาสารคามจะเปิดเรียนอีกครั้งในวันจันทร์ที่
13 กรกฎาคม 2552

ด้าน ดร.ศุภชัย สมัปปิโต อธิการบดีมหาวิทยาลัยมหาสารคาม กล่าวว่า
ในช่วงหยุดยาว 5 วัน มีนิสิต เดินทางกลับภูมิลำเนาจำนวนมาก
ต้องมีการเฝ้าระวังการแพร่ระบาดของเชื้อ
จึงได้ทำหนังสือแจ้งไปยังคณะต่างๆ
หากพบการแพร่ระบาดของเชื้อไข้หวัดสายพันธุ์ใหม่ 2009
ให้รีบรายงานมายังมหาวิทยาลัยฯ
เพื่อที่จะได้ดำเนินการประกาศงดการเรียนการสอน
เพื่อลดการแพร่ระบาดของเชื้อไข้หวัดสายพันธุ์ใหม่ 2009 ต่อไป

ขณะ ที่รายงานจากสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดมหาสารคาม แจ้งว่า
ขณะนี้พบผู้ป่วยเฝ้าระวังโรคไข้หวัดสายพันธุ์ใหม่ 2009
และส่งตรวจทางห้องปฏิบัติการ ยืนยันพบเชื้อชนิดเอ (H1N1) จำนวน 7 ราย

http://www.manager.co.th/Local/ViewNews.aspx?NewsID=9520000077512

นักเรียนสาธิต ม.มหาสารคาม สังเวยหวัด 2009 รายที่ 13

ศูนย์ข่าวขอนแก่น - นักเรียนหญิงชั้น ม.5
โรงเรียนสาธิตมหาวิทยาลัยมหาสารคาม สังเวยไข้หวัด 2009 เป็นรายที่ 13
ของประเทศ หลังกลับจากชมคอนเสิร์ตที่กรุงเทพฯ
ขณะที่โรงเรียนหลายแห่งในจังหวัดขอนแก่นขยาดหวัดลาม
สั่งปิดการเรียนการสอนป้องกันการแพร่ระบาดของโรค

รายข่าวแจ้งว่า
ได้มีการส่งต่อผู้ป่วยต้องสงสัยติดเชื้อไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009
จากจังหวัดมหาสารคาม เป็นเด็กนักเรียนหญิงชื่อ ลักษมน สัจจพงษ์ อายุ 19
ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 ของโรงเรียนสาธิตมหาวิทยาลัยมหาสารคาม
มารักษาตัวที่โรงพยาบาลศรีนครินทร์ คณะแพทย์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น

ล่าสุด ผู้สื่อข่าวรายงานว่า
นักเรียนหญิงคนดังกล่าวได้เสียชีวิตจริงลงแล้วที่โรงพยาบาลศรีนครินทร์
มหาวิทยาลัยขอนแก่น ตั้งแต่วันที่ 8 ก.ค. โดยนายแพทย์จรูญ เจตน์ศรีสุภาพ
ผู้ช่วยคณบดีคณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น
แจ้งว่าผู้อำนวยการโรงพยาบาล และคณบดีคณะแพทยศาสตร์
จะเปิดเผยรายละเอียดโดยนัดแถลงข่าวเวลา 13.00 น.วันนี้

เมื่อถึงเวลา ทางโรงพยาบาลแจ้งว่าไม่สามารถให้ข่าวได้
โดยจะรายงานผลการตรวจรักษาไปยังกระทรวงสาธารณสุข
ซึ่งต้องรอทางกระทรวงเป็นผู้เปิดเผยข้อมูลเท่านั้น
ข้อมูลเบื้องต้นทราบว่า เด็กนักเรียนที่เสียชีวิต
มีปัญหาเรื่องสุขภาพร่างกาย เนื่องจากเป็นภูมิแพ้
และความดันต่ำจึงทำให้ติดเชื้อและเสียชีวิต

ทั้งนี้ คาดว่าเด็กน่าจะติดเชื้อไข้หวัดสายพันธุ์ใหม่ 2009
จากการไปสอบวัดความรู้ความสามารถด้านการแพทย์
เพื่อเข้าเรียนต่อที่คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ที่กรุงเทพฯ
โดยในช่วงเดินทางไปสอบที่กรุงเทพฯนั้น ได้มีโอกาสไปชมการแสดงคอนเสิร์ต
แต่ยังไม่ทราบว่าเป็นคอนเสิร์ตของใคร และที่ใด

เมื่อกลับมาถึงบ้านจังหวัดมหาสารคาม ปรากฏว่าเด็กมีอาการไข้สูง
โดยญาติได้ตัดสินใจนำตัวมารักษาที่โรงพยาบาลศรีนครินทร์ คณะแพทยศาสตร์
มหาวิทยาลัยขอนแก่น และยังพบว่ามีเพื่อนนักเรียนอีกกว่า 10 คน
ที่ไปสอบด้วยกัน มีอาการไข้หวัดคล้ายกัน ต้องเข้าพักรักษาตัวที่
รพ.ศรีนครินทร์ เช่นเดียวกัน

รายงานเพิ่มเติมล่าสุด โรงเรียนสาธิตมหาวิทยาลัยมหาสารคาม
สั่งปิดโรงเรียนเพิ่มอีก 2 วันคือวันพฤหัสบดีที่ 9 และวันศุกร์ที่ 10
ก.ค.นี้ เช่นเดียวกับที่ โรงเรียนแก่นนครวิทยาลัย
และโรงเรียนเทศบาลสวนสนุก จังหวัดขอนแก่น ได้ปิดการเรียนการสอน
เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของโรคไข้หวัดสายพันธุ์ใหม่ 2009
โดยจะเปิดสอนตามปกติในวันจันทร์ที่ 13 ก.ค.นี้
http://www.manager.co.th/Local/ViewNews.aspx?NewsID=9520000077467

วันพฤหัสบดีที่ 9 กรกฎาคม พ.ศ. 2552

มหาสารคามเตือนประชาชนระวังโรคชิคุณกุนยา

from MOPH-ข่าวภูมิภาค by สำนักสารนิเทศ
มหาสารคาม เตือนประชาชนระวังโรคชิคุณกุนยา โรงพยาบาลจังหวัดมหาสารคาม
เตือนประชาชนระวังโรคชิคุณกุนยา
ที่มีสาเหตุมาจากยุงลายที่มีเชื้อกัดเด็กในเวลากลางวัน
และสภาพอากาศที่เอื้ออำนวยต่อการเกิดโรคไข้ชิกุนคุณยา
ปัจจุบันในพื้นที่จังหวัดมหาสารคามมีฝนตก มีน้ำขัง
เป็นแหล่งเพาะพันธ์ยุงลายที่ดี แพทย์หญิงเสาวลักษณ์ นาคะพงษ์
ผู้อำนวยการโรงพยาบาลจังหวัดมหาสารคาม
กล่าวว่าปัจจุบันสภาพย่างเข้าสู่ฤดูฝน
ประชาชนส่วนใหญ่ไม่ปิดฝาภาชนะใส่น้ำดื่ม น้ำใช้
ทำให้เป็นแหล่งเพาะพันธ์ยุงลายที่ดี
เพื่อเป็นการป้องกันโรคไข้ชินกุนคุณยาที่ระบาดในจังหวัดชายแดนภาคใต้
ประชาชนจะต้องป้องกันตนเองไม่ให้ยุงลายกัด ปิดฝาภาชนะใส่น้ำ 2 ชั้น
ขัดล้างภาชนะใส่น้ำทุก 7 วัน จัดสภาพแวดล้อมบ้านเรือนให้สะอาด เรียบร้อย
เป็นระเบียบ ทำลายขยะและเศษวัสดุที่สามารถขังน้ำได้โดยการ เผา ฝัง
ปล่อยปลากินลูกน้ำ ใส่ทรายอะเบทเพื่อฆ่าลูกน้ำยุงลาย
กางมุ้งให้เด็กตัวเล็ก ไม่ให้เด็กเล่นในที่มืด
ในขณะเด็กดูทีวีจะต้องจุดยากันยุง เปิดพัดลมให้
อาการของผู้ป่วยโรคไข้ชินกุนคุณยาจะมีไข้สูง ปวดศีรษะ อ่อนเพลีย
ปวดตามข้อ กล้ามเนื้อ
หากมีอาการดังกล่าวจะต้องรีบพาเด็กไปพบแพทย์เพื่อการรักษาที่ถูกต้อง
ผู้อำนวยการโรงพยาบาลจังหวัดมหาสารคาม ขอความร่วมมือประชาชนทุกครอบครัว
สถานที่ราชการ และสถานศึกษาทุกแห่ง จะต้องทำความสะอาดบริเวณโรงเรียน
บริเวณบ้าน ทุก 7 วัน กำจัดเศษวัสดุ กระป๋อง กะลา
ยางรถยนต์ที่สามารถขังน้ำได้ ขัดล้างภาชนะใส่น้ำทุก 7 วัน
ปิดฝาภาชนะใส่น้ำดื่ม น้ำใช้ 2 ชั้น ปล่อยปลากินลูกน้ำ
และใส่ทรายอะเบทเพื่อฆ่าลูกน้ำยุงลาย หากบุตรหลานมีไข้สูง ซึม อ่อนเพลีย
อาเจียน เบื่ออาหาร หน้าแดง และมีผิวหนังแดง ให้ดื่มน้ำมากๆ
เช็ดตัวเพื่อลูกไข้ และรีบพบแพทย์เพื่อการรักษาที่ถูกต้อง
ปัจจุบันเด็กและผู้ใหญ่สามารถป่วยเป็นโรคไข้เลือดออกได้
ฉะนั้นจะต้องให้ความร่วมมือในการทำลายแหล่งเพาะพันธ์ยุงลายเป็นการตัดไฟต้น
ลม "ไม่มีลูกน้ำ ไม่มียุงลาย ไม่มีไข้ชินคุณกุนยา"
ด้วยความปรารถนาดีโรงพยาบาลมหาสารคาม อรณต วัฒนะ ข่าว / พิมพ์ 5 กรกฏาคม
2552

ขอพรพระธาตุนาดูนวันเข้าพรรษาปลอดภัยจากหวัดใหญ่ 2009

มหาสาคาม - ในช่วงวันหยุดยาวติดต่อันหลายวันในช่วงเทศาลเข้าพรรษา
เหล่าพุทธศาสนิกชนหลั่งไหลไปทำบุญและนมัสการพระธาตุนาดูน
ขอพรให้เกิดความเป็นสิริมงคลแก่ตนเองและครอบครัว

ในช่วงวัหยุดยาวเทศกาลเข้าพรรษา ที่พุธมณฑลอีสาน พระธาตุนาดูน
จังหวัดมหาสารคาม ซึ่งเป็นโบราณ วัตถุอันศักดิ์สิทธิี์อายุมากกว่า 1,300
ปี และเชื่อว่าสมัยก่อนเป็นที่ตั้งของเมืองนครจัมปาศรี
ได้มีเหล่าุพุทธศาสนิกชนจากทุกสารทิศ พาครอบครัวและบุตรหลานไปทำบุญ
นมัสการพระธาตุนาดูน เวียนเทียรอบองค์พระธาตุนาดูน
เพื่อถวายป็นพุทธบูชาแด่องค์สัมมาสัมพุทธเจ้า

พร้อมตีฆ้องและเคาะระฆัง
ให้เกิดความเป็นสิริมงคลแก่ชีวิตและครอบครัว ในช่วงเทศกาลเข้าพรรษา
ขอให้มีแต่สิ่งที่ดีๆเข้ามาในชีวิต
และขอให้สุขภาพแข็งแรงปลอดภัยจากเชื้อโรคไ้หวัดสายพันธุ์ใหม่ 2009
ที่กำลังแพ่ระบาดอยู่ในขณะนี้

ชาวมหาสารคามร่วมทำบุญในเทศกาลเข้าพรรษา

มหาสารคาม - เหล่าพุทธศาสนิกชนชาวมหาสารคาม
ร่วมกันทำบุญตักบาตรข้าวเหนียว ถวายสังฆทาน และเทียนพรรษากับพระภิกษุ
ในช่วงเทศกาลเข้าพรรษากันอย่างคึกคัก

วันนี้ (7 ก.ค.) ที่วัดบ้านเอียด อ.เมือง จ.มหาสารคาม
ซึ่งเป็นวัดในชนบทประจำหมู่บ้าน มีประชาชนจำนวนมาก
ร่วมกันตักบาตรข้าวเหนียว แด่พระภิกษุสงฆ์ พร้อมถวายจตุปัจจัยไทยธรรม
ดอกไม้ธูปเทียน เครื่องสังฆทาน
และเทียนพรรษาแก่พระสงฆ์ในช่วงเทศกาลเข้าพรรษา
เพื่อใช้กิจสงฆ์ตลอดระยะเวลา 3 เดือน

สำหรับการเดินทางมาทำบุญในช่วงเทศกาลเข้าพรรษาปีนี้
มีประชาชนมาทำบุญมากกว่าทุกปี
โดยเฉพาะกลุ่มคนวัยทำงานที่ทำงานที่กรุงเทพฯ
ได้เดินทางกลับมาทำบุญที่บ้านจำนวนมาก เนื่องจากเป็นช่วงวันหยุดยาวถึง 5
วัน ตามที่รัฐบาลกำหนด
บรรยากาศภายในวัดและด้านในศาลาจะมีคนมาทำบุญมากเป็นพิเศษ

อย่างไรก็ตาม
เป็นที่น่าสังเกตว่าเทียนพรรษาที่ประชาชนนำมาถวายให้กับพระสงฆ์
มีขนาดเล็กว่าทุกปี ส่วนหนึ่งเป็นเพราะสภาวะเศรษฐกิจ
โดยชุดสังฆทานที่ถวายพระ
ประชาชนจะซื้อสิ่งของมาใส่ถังสังฆทานเองมากกว่าซื้อสังฆทานสำเร็จรูปตามร้าน
เพราะมั่นใจว่าจะได้ของถวายพระที่มีคุณภาพมากกว่าซื้อจากร้าน

ร้านค้าโอดสังฆทานยอดตกค้าปลีกยักษ์ดึงลูกค้าไปหมด

โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 5 กรกฎาคม 2552 15:42 น.
มหาสารคาม -
พาณิชย์จังหวัดและการค้าภายในจังหวัดมหาสารคามออกตรวจเครื่องสังฆทานในช่วง
เทศกาลเข้าพรรษา พบสินค้าบางรายการไม่แจ้งที่อยู่ผู้ผลิต
และสินค้าที่บรรจุในกล่องเข้าข่ายหลอกลวงผู้บริโภค
ขณะที่ร้านจำหน่ายสังฆทานต่างบ่นเป็นเสียงเดียวกันว่าปีนี้ยอดขายตกลงกว่า
50% ค้าปลีกรายใหญ่แย่งลูกค้าไปหมด

นายวิริทธิ์พล สันติศราวุธ พาณิชย์จังหวัดมหาสารคาม
และการค้าภายในจังหวัดมหาสารคาม ออกตรวจเครื่องสังฆทาน
และสิ่งของที่จะนำไปถวายพระสงฆ์ในช่วงเทศกาลเข้าพรรษา
ร้านค้าในเขตเทศบาลเมืองมหาสารคาม และเขตรอบนอก
ส่วนใหญ่พบว่าเจ้าของร้านค้าได้ปฏิบัติตามระเบียบ
และประกาศของคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค ด้วยการติดป้ายแสดงราคาสินค้า
และบอกรายละเอียดในชุดสังฆทาน

โดยชุดสังฆทานที่ร้านค้านำมาจำหน่ายให้กับลูกค้าส่วนใหญ่
จะรับมาจากแหล่งเดียวกันพร้อมมีการแจ้งรายละเอียดต่างๆ เอาไว้
แต่เมื่อเจ้าหน้าที่ได้ตรวจสอบสินค้าแต่ละรายการในชุดสังฆทานพบว่า
มีการทำรูปแบบหีบห่อให้มีขนาดใหญ่ แต่ด้านในบรรจุตัวสินค้าเพียงชิ้นเดียว
เพื่อล่อตาล่อใจให้ลูกค้าเลือกซื้อ
ขณะเดียวกันชุดสังฆทานที่เป็นยาสามัญประจำบ้านแม้ตรวจสอบแล้วจะยังไม่หมด
อายุ

แต่มียาบางรายการที่อาจจะไม่ปลอดภัยต่อผู้บริโภค
เนื่องจากไม่ได้ระบุที่อยู่ของผู้ผลิตหรือผู้จัดทำไว้ที่บรรจุภัณฑ์อย่าง
ชัดเจน เบื้องต้นพาณิชย์จังหวัดและการค้าภายในจังหวัดมหาสารคาม
ได้แจ้งให้ผู้ประกอบการห้ามนำเครื่องสังฆทานดังกล่าวออกจำหน่ายโดยเด็ดขาด
เพื่อป้องกันการเอารัดเอาเปรียบผู้บริโภคในเรื่องคุณภาพของสินค้า
และความปลอดภัยของผู้บริโภค
หากฝ่าฝืนจะเอาผิดกับผู้ประกอบการรายนั้นต่อไป

ด้านผู้จำหน่ายสังฆทานเกือบทุกร้านต่างบ่นเป็นเสียงเดียวกันว่า
ปีนี้ยอดขายตกลงกว่า 50% เนื่องจากสภาพเศรษฐกิจที่ย่ำแย่
และยังมีห้างค้าปลีกรายใหญ่ที่มาตั้งในพื้นที่แย่งลูกค้าไปหมด
ทำให้เครื่องสังฆทาน เทียนพรรษา
สิ่งของที่ใช้ในช่วงเทศกาลเข้าพรรษาขายได้ไม่ดีเท่าที่ควร

วันเสาร์ที่ 4 กรกฎาคม พ.ศ. 2552

แห่เข้าโรงตึ๊งก่อนหยุดยาวหาเงินเที่ยวเข้าพรรษา-ดำนา

มหาสารคาม - ประชาชนจำนวนมากนำทรัพย์สินมีค่ามาจำนำที่สถานธนานุบาลจังหวัดมหาสารคาม
เนื่องจากวันเป็นวันหยุดติดต่อกันหลายวันในช่วงเทศกาลเข้าพรรษา
เพื่อที่จะนำเงินไปทำบุญ ใช้จ่ายท่องเที่ยวพักผ่อน
บางส่วนนำเงินไปซื้อปุ๋ยหว่านในนาข้าว

นายธีรศักดิ์ คำภักดี
ผู้ช่วยผู้จัดการสถานธนานุบาลจังหวัดมหาสารคาม กล่าวว่า
วันนี้ที่สถานธนานุบาลเทศบาลเมืองมหาสารคาม
มีประชาชนทยอยนำทรัพย์สินที่มีค่ามาจำนำกับสถานธนานุบาลเป็นจำนวนมาก
เนื่องจากวันพรุ่งนี้เป็นวันหยุดยาว มีวันหยุดยาวติดต่อกันหลายวัน
ส่วนหนึ่งประชาชนต้องการนำเงินไปทำบุญ และใช้จ่ายในช่วงเทศกาลเข้าพรรษา

อีกส่วนหนึ่งต้องการนำเงินไปดำนา ทั้งจ้างดำนา
และซื้อปุ๋ยเคมีหว่านในนาข้าว มีความจำเป็นต้องใช้เงินในช่วงดังกล่าว
จึงนำทรัพย์สินที่มีค่ามาจำนำกับทางธนานุบาล
ทรัพย์สินส่วนมากยังคงเป็นทองรูปพรรณ

สถานธนานุบาลเทศบาลเมืองมหาสารคาม
มีเงินทุนหมุนเวียนให้บริการประชาชน คิดเป็นวงเงินรวมกว่า 51 ล้านบาท
ล่าสุดมีประชาชนเข้าใช้บริการจำนวนมากถึง 4,218 ราย
มูลค่าทรัพย์สินที่รับจำนำไว้เป็นเงินทั้งสิ้น 51,273,900 บาท
ซึ่งในวันนี้ (3 ก.ค.)
คาดว่าประชาชนจะนำทรัพย์สินที่มีค่ามาจำนำกับสถานธนานุบาลเทศบาล
เมืองมหาสารคามไม่ต่ำกว่า 2 ล้านบาท

ติวเข้มเกษตรกรมหาสารคามใช้ปุ๋ยอินทรีย์แทนสารเคมีลดต้นทุนเพิ่มรายได้

มหาสารคาม-สถานีพัฒนาที่ดินมหาสารคาม ติวเข้มหลักสูตรแลกเปลี่ยนเรียนรู้
ประสบการณ์ดำเนินงานของประธานกลุ่มกษตรกรใช้สารอินทรีย์เพื่อลดใช้สารเคมี
ทางการเกษตร หวังเพิ่มรายได้ผลกำไรให้แก่เกษตรกร

ที่ห้องคอนเวนชั่นฮอลล์ โรงแรมวสุ จ.มหาสารคาม นายวิโรจน์
จิวะรังสรรค รองผู้ว่าราชการจังหวัดมหาสารคาม
เป็นประธานเปิการอบรมเชิงปฏิบัติการ
หักสูตรแลกเปลี่ยนเรียนรู้ประสบการณ์ดำเินงานของประธานกลุ่มเกษตรกรใช้สาร
อินทรีย์เพื่อลดการใช้สารเคมีทางการเกษตร
พร้อมถ่ายทอดความรู้ใหม่สู่สมาชิกได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยมี
ประธานกลุ่มเกษตรกฯ กว่า 200 คนร่วมงาน

นายวิโรจน์ จิวะรังสรรค์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดมหาสารคาม
กล่าวว่า ปัจจุบันการผลิตทางการเกษตรโดยใช้สารเคมี
ที่มุ่งเน้นด้านการพัฒนาเศรษฐกิจเพื่อการแข่งขันเป็นหลักทำให้เกิดการใ้ช้ป
ุ๋ยเคมีเป็นจำนวนมาก เพื่อเร่งอัตราการเจริญเติบโตของพืช
โดยมิได้ดำนึงถึงผลกระทบที่มีต่อผู้บริโภค และมีการใช้สารเคมีกำจัดวัชพืช
และศัตรูพืชจำนวนมาก จนก่อให้เกิดสารพิษปนเปื้อนผลผลิตของเกษตรกร
ซึ่งเ็ป็นอันตรายต่อผู้บริโภคและเกษตรกร

การผลิตแบบพึ่งพาสารเคมี ทำให้ระบบนิเวศเสื่อมโทรมเป็นอย่างมาก
และยังเป็นอันตรายต่อสุขภาพอนามัยของเกษตรกรและผู้บริโภค
ปัจจุบันการใช้สารเคมียังขาดความรู้
ความเข้าใจทำให้เกษตรกรมีต้นทุนการผลิตที่สูงขึ้น

ทั้งนี้เพราะดินและะบบนิเวศการเกษตรที่เสื่อมสภาพ
ทำให้ยิ่งต้องมีการใช้สารเคมี
และปุ๋ยเคมีในปริมาณที่เพิ่มขึ้นเพื่อรักษาผลผลิตให้คงเดิม

ดังนั้น รัฐบาลจึงได้ประกาศเจตนารมณ์อย่างชัดเจน
เพื่อเป็นการขับเคลื่อนกษตรอินทรีย์เป็นวาระแห่งชาติให้ทุกภาคส่วน
ร่วมกับปฏิบัติอย่างจริงจังและต่อเนื่อง
เพื่อให้มีการปรับเปลี่ยนระบบการผลิตที่พึ่งพาการใช้สารเคมี
มาเป็นการพึ่งพาตนเองในการผลิตปุ๋ยอินทรีย์
และสารอินทรีย์เพื่อใช้เองภายในประเทศ

รวมทั้งเพื่อให้สอดคล้องกับยุทธศาตร์ การแก้ไขปัญหาความยากจน
ตามแนวเศรษฐกิจพอเพียงของรัฐบาลที่เน้นส่งเสริมให้เกษตรกรรู้จักการพึ่งพาตน
เอง เป็นการลดรายจ่ายเพิ่มรายได้ ให้แก่เกษตรกรในอนาคต

ปศุสัตว์มหาสารคามติวเข้มเยาวชนป้องกันไข้หวัดนก

โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 2 กรกฎาคม 2552 12:19 น.
มหาสารคาม - สำนักงานปศุสัตว์จังหวัดมหาสารคาม
จัดค่ายเยาวชนส่งเสริมการเรียนรู้เกี่ยวกับโรคไข้หวัดนก
นำความรู้ไปเผยแพร่ให้กับสมาชิกในครอบครัวและคนใกล้ชิดได้อย่างถูกต้อง

ที่ห้องประชุมแก่งคูณ ศูนย์ประชุมแก่งเลิงจาน นายวิโรจน์
จิวะรังสรรค์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดมหาสารคาม
เป็นประธานในการเปิดอบรมโครงการค่ายส่งเสริมการเรียนรู้เกี่ยวกับโรคไ้ข้ห
วัดนกสำหรับนักเรียนประจำปี 2552 โดยมีนักเรียนชั้นมัธยมต้น
และมัธยมปลายเข้าฝึกอบรมจำนวน 100 คน

นายวิโรจน์ จิวะรังสรรค์ รองผู้ว่ารชการจังหวัดมหาสารคาม กล่าวว่า
โรคไข้หวัดนกถือว่าเป็นโรคติดต่อจากสัตวู์่สู่คนได้
ซึ่งการระบาดในช่วงที่ผ่านมา
ส่งผลกระทบและสร้างความเสียหายในด้านสาธารณสุข
ปัญหาของกษตรกรผู้เลี้ยงสัตว์และผู้บริโภค
ซึ่งส่งผลกระทบและความเสียหายต่อเศรษฐกิจของประเทศอย่างรุนแรง
ทั้งในด้านการส่งออก ด้านอุตสาหกรรม ด้านการท่องเที่ยว
และการเลียงสัตว์ปีกทั้งระบบ

การให้ความรู้ในเรื่องดังกล่าวต้องครอบคลุมในทุกระดับเยาวชนเป็นส่วน
หนึ่งที่จะช่วยเผยแพร่ประชาสัมพันธ์ให้สมาชิกในครอบครัวหรือคนใกล้ชิดได้
ทราบถึงวิธีป้องกันและระวังไม่ให้ติดเชื้อโรคไข้หวัดนก
เป็นการสร้างเครือข่ายความรู้ให้เกิดประโยชน์เพื่อที่จะนำความรู้ไปถ่ายทอด
ได้อย่างถูกต้องและมีประสิทธิภาพ

รพ. มหาสารคามเตรียมแผนรับมือไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009

from MOPH-ข่าวภูมิภาค by สำนักสารนิเทศ
รพ. มหาสารคามเตรียมแผนรับมือไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 *
โรงพยาบาลมหาสารคามเตรียมแผน
พร้อมรับมือกรณีการเกิดโรคระบาดใหญ่ของโรคไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009
โดยจัดเตรียมห้องแยกโรคติดต่อทางเดินอากาศ
พร้อมอุปกรณ์และบุคคลากรอย่างครบครัน แพทย์หญิงเสาวลักษณ์ นาคะพงษ์
ผู้อำนวยการโรงพยาบาลมหาสารคามกล่าวว่า
จากการแพร่ระบาดของโรคไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ ชนิด A (H1N1)
อย่างต่อเนื่อง โดยที่องค์กรอนามัยโลกได้ประกาศเป็นโรคติดต่อรุนแรง
ที่ขณะนี้มีจำนวนผู้ได้รับเชื้อทั่วโลกหลายพันราย
โดยในขณะนี้ยังพบว่าในประเทศไทยได้พบผู้ได้รับเชื้อแล้วกว่า 300 ราย
ด้วยตระหนักในความรุนแรงของเชื้อดังกล่าว
ที่อาจจะแพร่ระบาดถึงประชาชนในพื้นที่จังหวัดมหาสารคามโรงพยาบาลมหาสารคาม
ได้รณรงค์ด้านการเฝ้าระวัง มีการประชาสัมพันธ์ จัดนิทรรศการ
ให้ความรู้ที่ป่วยและญาติที่มารับบริการ
แจกหน้ากากอนามัยป้องกันเชื้อให้กับประชาชนที่มาใช้บริการ
มีการคัดกรองคนไข้เพื่อความไม่ประมาท ประชาชนจะต้องล้างมือให้สะอาด
ใช้ช้อนกลาง รับประทานอาหารที่ปรุงสุกใหม่ๆด้วยความร้อน มีอาการไข้สูง ไอ
หอบ อ่อนเพลียและมีประวัติเคยเดินทางมาจากต่างประเทศภายใน 5 วัน
อย่านิ่งนอนใจ รีบพบแพทย์เพื่อตรวจรักษาทันที
สำหรับแผนการให้บริการผู้ป่วยที่ติดเชื้อ
โรงพยาบาลมหาสารคามมีการเตรียมความพร้อมของห้องแยกโรค เวชภัณฑ์ ยา
บุคลากรและระบบส่งต่อ มีการซ้อมแผนภาคสนาม
กรณีการเกิดระบาดใหญ่ของโรคไข้หวัดใหญ่ สายพันธุ์ใหม่ ชนิด A (H1N1)
เพื่อบริการผู้ป่วยให้ปลอดภัยสูงสุด
ผู้อำนวยการโรงพยาบาลมหาสารคามขอความร่วมมือประชาชนทุกคนป้องกันตนเองให้
ปลอดภัยจากโรคไข้หวัดใหญ่ สายพันธุ์ใหม่ ชนิด A
(H1N1ด้วยการออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ บริโภคอาหารที่ดีมีประโยชน์
พักผ่อนให้เพียงพอ มีอาการสงสัยรีบพบแพทย์เพื่อการรักษาที่ถูกต้อง อรณต
วัฒนะ ข่าว / พิมพ์ 3 กรกฏาคม 52

มหาสารคามเป็นจังหวัดนำร่องในการพัฒนาศูนย์เรียนรู้สุขภาพสู่ชุมชน

from MOPH-ข่าวภูมิภาค by สำนักสารนิเทศ
มหาสารคาม เป็นจังหวัดนำร่องในการพัฒนาศูนย์เรียนรู้สุขภาพสู่ชุมชน
สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดมหาสารคามร่วมกับโรงพยาบาลมหาสารคาม
ได้พัฒนาระบบคุณภาพบริการมาอย่างต่อเนื่อง
เพื่อให้ประชาชนผู้รับบริการสะดวก รวดเร็ว ประทับใจ
และได้รับบริการที่มีมาตรฐานโดยเฉพาะในด้านสุขภาพที่สามารถดูแลตนเองได้
แพทย์หญิงเสาวลักษณ์ นาคะพงษ์
ผู้อำนวยการโรงพยาบาลมหาสารคามได้รับงบประมาณจากกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ
กระทรวงสาธารณสุขในการพัฒนาศูนย์การเรียนรู้ด้านสุขภาพในโรงพยาบาลมหาสารคาม
ในปี 2551 และในปี 2552
มีการขยายผลสู่สถานบริการสาธารณสุขทุกแห่งในพื้นที่อำเภอเมือง
จังหวัดมหาสารคาม ซึ่งมีคณะกรรมการผู้เชี่ยวชาญจากกองสุขศึกษา
กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ กระทรวงสาธารณสุข
เดินทางมานิเทศติดตามผลการดำเนินงานในโครงการจังหวัดคุณภาพต้นแบบในปี
2552 จำนวน 21 แห่ง
และสนับสนุนงบประมาณในการพัฒนามุมเรียนรู้สุขภาพในศูนย์สุขภาพชุมชนละ
4,000 บาท และงบประมาณรวมทั้งจังหวัดจำนวน 300,000 บาท
เพื่อใช้ในการพัฒนาศูนย์เรียนรู้สุขภาพในพื้นที่จังหวัดมหาสารคามให้มี
คุณภาพครอบคลุม 8 ระบบ
ผู้อำนวยการโรงพยาบาลมหาสารคามยินดีให้ความร่วมมือในการพัฒนาศูนย์เรียนรู้
สุขภาพเพื่อเป็นการพัฒนาคุณภาพบริการถือเป็นนโยบายเร่งด่วนที่ต้องพัฒนาหา
ส่วนขาด นำส่วนที่เป็นปัญหามาจัดทำแผนยกระดับเพื่อที่จะพัฒนาศูนย์เรียนรู้สุขภาพให้
สถานบริการสาธารณสุขทุกระดับได้มาตรฐาน
เกิดความพึงพอใจแก่ผู้รับบริการมากที่สุด อรณต วัฒนะ ข่าว / พิมพ์ 1
มิถุนายน 52

วันศุกร์ที่ 26 มิถุนายน พ.ศ. 2552

ชาวมหาสารคามรวมพลกว่า 1,000 คนต้านยาเสพติด

มหาสารคาม - ทุกภาคส่วนในจังหวัดมหาสารคามร่วมกันจัดกิจกรรมรณรงค์เนื่องในวันต่อต้านยา
เสพติดโลก เพื่อสร้างจิตสำนึกเยาวชน
และประชาชนให้ตระหนักถึงพิษภัยยาเสพติด

ที่บริเณสนามหน้าที่ว่าการำเภอเมืองมหาสารคาม นายทองวี พิมเสน
ผู้ว่าราชกรจังหวัดมหาสารคาม ได้นำข้าราชาร พ่อค้า ประชาชน นักรียน นิสิต
และนักศึษา กว่า 1,000 คน จัดงานรวมพลคนมหาสาราม 5 รั้ว
ล้มไทยต้านภัยยาเสพติด เนื่องในวันต่อต้านยาเสพติดโลก
โดยศูนย์ปฏิบัติกาต่อสู่เพื่อเอาชนะยาเสพติดจังหวัดมหาสารคาม
ได้ร่วมกับทุกภาส่วนร่วมกันแสดงออกถึงความจงรักภักดี
แสดงพลังประกาศสัจจะต่อต้านยาเสพติด ร่วมกันสาปแช่งผู้ค้ายาเสติด

พร้อมมีมาตรการเข้มงวดในการป้องกันและปราบปรามาเสพติดในทุกพื้นที่
โดยเฉพาะในสถานศึกษา เพื่อให้ชาวจังหวัดมหาารคามทุกคน
ได้ตระหนักถึงความสำคัญ
ที่จะต้องร่วมกันเฝ้าระวังดูแลป้องกันมิให้ภัยอันตรายของยาเสพติด
เข้ามาทำลายอนาคตของเยาวชน ลูกหลานซึ่งเป็นที่รักยิ่งของเราทุกคน
พร้อมให้น้อมนำแนวคิดหลกปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงตามแนวพระราชดำริ
ไปปรับใช้ในชีวิตประจำวันได้อย่างมีความสุข

ภายในงานมีการจัดการแสดง เชียร์ลีดเดอร์
เต้นแอโรบิกโดยชมรมทูบีนัมเบอร์วัน การแสดงของสตันท์แมน
การแข่งขันหัวเราะ การประกวดสมาร์ตแมนแอนด์สมาร์ตเกิร์ล
รวมถึงการจัดนิทรรศการให้ความรู้เรื่องยาเสพติด การแสดงดนตรี
และการมอบประกาศนียบัตรให้แก่โรงานสีขาวที่ปลอดยาเพติด

แกนนำหมู่บ้านสารคามกว่า 4 พันคนปกป้องเทิดทูนสถาบัน

โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 25 มิถุนายน 2552 17:01 น.
มหาสารคาม - จังหวัดมหาสารคาม
จัดอบรมแกนนำหมู่บ้านในการปกป้องและเทิดทูนสถาบันสำคัญของชาติ
โดยมีแกนนำกว่า 4,000 คนในอำเภอโกสุมพิสัย โดยแบ่งการอบรมออกเป็น 9 รุ่น
เพื่อปกปองเทิดทูนสถาบัน สร้างความสมานฉันท์ในชาติ
พัฒนาประชาธิปไตยให้เดินหน้าต่อไปอย่างต่อเนื่อง

ที่หอประชุมเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา มหาวิทยาัลัยราชภัฏมหาสารคาม
นายทอทวี พิมเสน ผู้ว่าราชการจังหวัดมหาสารคาม
เป็นประธานการอบรมแกนนำหมู่้บ้านในการปกป้องและเิทิดทูนสถาบันสำคัญของชาติ
โดยมีนางคมคาย อุดรพิมพ์ ที่ปรึกษารัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย
นายอำเภอ และแกนนำหมู่บ้านจำนวน 4,660 คนเข้าร่วมการอบรม
หวังให้แกนนำเผยแพร่ข้อมูลข่าวสารให้ลูกบ้านรับทราบ
ไม่ตกเป็นเครื่งมือของฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง นำมาซึ่งความสงบ สันติ
และสามัคคีของคนในชาติ

นายทองที พิมเสน ผู้ว่าราชการจังหวัมหาสารคาม กล่าวว่า
การอบรมแกนนำหมู่บ้านในการปกป้องและเทิดทูนสถาบันสำคัญของชาติ
แบ่งการอบรออกเป็น 9 รุ่น กระจายไปยังอำเภอต่างๆ ทั่วทั้งจังหวัด
ซึ่งเป็นที่ทราบกันดีว่าประเทศไทยได้รับความบอบช้ำจากปัญหาความขัดแย้งทาง
การเมืองค่อนข้างมาก ก่อให้เกิความแตกแยกของคนในสงคม
มีการแบ่งฝักแบ่งฝ่าย

แต่ละฝ่ายได้พยายามกล่าวอ้าง จาบจ้วงสถาบันของชาติ
เพื่อหวังให้เกิดความน่าเชื่อถือของกลุ่มตน
จนส่งผลให้หลายกรณีเกิดความเข้าใจที่คลาดเคลื่อนจากข้อเท็จจริง
ทำให้ประชาชนเกิดความไขว้เขวและตกเป็นครื่องมือของผู้เคลื่อนหวเพื่อจะได้มา
ซึ่งผลประโยชน์ทางการเมืองของกลุ่มตน
จนลืมไปว่าสิ่งที่กระทำนั้นเป็นสิ่งไม่บังควรอย่างยิ่ง
ประชาชนทุกคนต้องลุกขึ้นมาเพื่อปกป้องรักษาและเทิดทูนสถาบันสำคัญองชาติ

ประกอบด้วย สถาบันชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์
ซึ่งรัฐบาลได้กำหนดแถลงนโยบายเร่งด่วนที่สำคัญ 4 ประการ คือ ปกป้อง
เทิดทูน สถาบันสำคัญของชาติ โดยเฉพาะอย่างยิ่งสถาบันพระมหากษัติย์
สร้างความรัก ความสามัคคี ความสมานฉันท์ของคนในชาิติ
ให้เกิดความสงบและสันติสุข

แก้ไข ปัญหาเศรษฐกิจที่ได้รับผลกระทบจากทั่วโลก
ให้สามารถผ่านวิกฤตไปได้
และพัฒนาประชาธิปไตยของไทยให้เดินหน้าต่อไปอย่างต่อเนื่องและยั่งยืน

วันพฤหัสบดีที่ 25 มิถุนายน พ.ศ. 2552

เผยผู้ต้องขังเรือนจำมหาสารคามกว่า 50% ต้องโทษคดียาเสพติด

มหาสารคาม - สถานการณ์การแพร่ระบาดยาเสพติดในมหาสารคามยังน่าห่วง
จับกุมผู้ต้องหาได้ต่อเนือง เผยกว่าร้อยละ 50
ของผู้ต้องขังที่เรือนจำจังหวัดเป็นผู้ต้องหาคดียาเสพติด
ขณะที่รองผู้การฯ คุมเข้มในกลุ่มนักเรียน นักศึกษา
ซึ่งถือเป็นนักเสพรุ่นใหม่ที่พร้อมพัฒนาเป็นเครือข่าวผู้ค้ารายย่อย

ที่ห้องประชุมอาคารสารสิน ตำรวจภูธรจังหัดมหาสารคาม
พ.ต.อ.จิตรจรูญ ศรีวนิชย์ รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดมหาสารคาม
ได้เรียกประชุมชุดป้องกันและปราบปรามยาเสพติดสถานีตำรวจภูธรทุกแห่งใน
พื้นที่ เพื่อติดตามสถานการณ์การแพร่ระบาดของยาเสพติดพบว่า
เฉพาะในรอบเดือนที่ผ่านมาสามารถจับกุมคดีที่เกี่ยวข้องกับยาเสพติดได้ 66
คดี ผู้ต้องหา 73 คน เป็นของกลางยาบ้ากว่า 1,000 เม็ด

ทั้งนี้ แม้การจับกุมจะเป็นเพียงผู้ค้ารายย่อย
แต่สิ่งที่น่าเป็นห่วงของกลุ่มเป้าหมายที่ผู้ค้าพุ่งเป้าไปหาคือกลุ่มเยาวชน
ที่เป็นนักเรียน นิสิต นักศึกษา ที่พักตามหอพักซึ่งมี กว่า 600 แ่ห่ง
ที่ยากต่อการเข้าไปควบคุมดูแล จึงต้องเข้มงวดมาตรการป้องกันการแพร่ระบาด
โดยประสานงานกับเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง

พร้อมกันนั้นได้ขอความร่วมมือผู้ประกอบการหอพักให้ช่วยสอดส่องดูแล
คอยแจ้งเบาะแสเยาวชนที่อาจจะมีการมั่วสุมเสพยาเสพติด
ควบคู่ไปกับมาตรการจัดระเบียบสังคม สามารถนำผู้ติดยาเสพติประเภทยาบ้า
และสารระเหยเข้าไปรับการบำบัด รวม 54 ราย ในพื้นที่อำเภอบรบือมากที่สุด
23 ราย

นอกจากนี้ยังพบว่า ที่เรือนจำจังหวัดมหาสารคาม
ข้อมูลล่าสุดพบว่าจำนวนผู้ต้องหาคดียาเสพติดให้โทษ ที่ต้องกักขัง
ทั้งชายและหญิง รวม 532 ราย หรือคิดเป็นกว่าร้อละ 50
ของจำนวนผู้ต้องขังรวมกับคดีอื่นๆ 976 ราย

วันพุธที่ 24 มิถุนายน พ.ศ. 2552

มหาสารคาม เตือนระวังโรคระบบทางเดินหายใจ

มหาสารคาม เตือนระวังโรคระบบทางเดินหายใจ
โรงพยาบาลจังหวัดมหาสารคามเตือนประชาชนระวังโรคในระบบ
ทางเดินหายใจในช่วงที่อากาศเปลี่ยนแปลงอากาศร้อน สลับกับฝนตก
ทำให้เด็กและผู้สูงอายุปรับตัวเข้ากับสภาพอากาศไ
from MOPH-ข่าวภูมิภาค by สำนักสารนิเทศ
มหาสารคาม เตือนระวังโรคระบบทางเดินหายใจ
โรงพยาบาลจังหวัดมหาสารคามเตือนประชาชนระวังโรคในระบบ
ทางเดินหายใจในช่วงที่อากาศเปลี่ยนแปลงอากาศร้อน สลับกับฝนตก
ทำให้เด็กและผู้สูงอายุปรับตัวเข้ากับสภาพอากาศไม่ได้
แพทย์หญิงเสาวลักษณ์ นาคะพงษ์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลมหาสารคาม
ชี้แจงว่าปัจจุบันสภาพอากาศของจังหวัดมหาสารคาม
มีการเปลี่ยนแปลงค่อนข้างรุนแรง บางวันอากาศร้อนอบอ้าว บางวันมีฝนตก
ทำให้เด็กเล็ก และผู้สูงอายุปรับตัวเข้ากับสภาพอากาศไม่ทัน
เป็นสาเหตุของโรคไข้หวัด ไข้หวัดใหญ่ และปอดบวม
พบผู้ป่วยปอดบวมจากเดือนมกราคม 2552 ถึงปัจจุบัน 23 มิถุนายน 2552 จำนวน
906 คนไม่มีผู้เสียชีวิต ผู้ป่วย 3 ลำดับแรกคืออำเภอเมืองจำนวน 278 ราย
อำเภอแกดำ จำนวน 54 ราย และอำเภอนาดูน จำนวน 53 ราย พบผู้ป่วยไข้หวัดใหญ่
64 ราย ผู้ป่วย 3 ลำดับแรกคือ อำเภอยางสีสุราช จำนวน 15 ราย
อำเภอพยัคฆภูมิพิสัย จำนวน 19 ราย และอำเภอวาปีปทุม จำนวน 18 ราย
อาการแรกเริ่มผู้ป่วยจะครั้นเนื้อ ครั่นตัว ปวดศีรษะ มีไข้ ปวดกล้ามเนื้อ
ไอ จาม น้ำมูกไหล เบื่ออาหาร อ่อนเพลีย หากอาการไม่ดีขึ้นภายใน 3 วัน
จะต้องรีบพบแพทย์ เพื่อตรวจรักษาที่ถูกต้องต่อไป สำหรับเด็กอายุต่ำกว่า 2
เดือน จะมีอาการไม่ดื่มน้ำ ไม่ดื่มนม มีไข้สูง หายใจหอบ ปากเล็บ
มือเท้าเขียว และกระสับกระส่าย
จะต้องรีบพาเด็กพบแพทย์เพื่อรับการรักษาโดยเร็ว เด็กจะได้ปลอดภัย
ผู้อำนวยการโรงพยาบาลมหาสารคามย้ำ การป้องกันโรคในระบบทางเดินหายใจ
ควรดูแลสุขภาพให้แข็งแรง พักผ่อนให้เพียงพอ
รับประทานอาหารที่ดีมีประโยชน์ต่อร่างกาย ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ
รักษาร่างกายให้อบอุ่น สวมใส่เสื้อผ้าให้พอเหมาะกับสภาพอากาศอาบน้ำอุ่น
รวมทั้งหลีกเลี่ยงการเข้าไปอยู่ในสถานที่มีมีคนแออัด เช่น โรงภาพยนต์
ห้างสรรพสินค้า หรือบนรถโดยสารที่มีผู้โดยสารจำนวนมากๆ
ท่านจะปลอดภัยจากโรค ในระบบทางเดินหายใจ อรณต วัฒนะ ข่าว 23 มิถุนายน
2552

มหาสารคามเตือนระวังโรคเลปโตสไปโรซีสในช่วงฤดูฝน

from MOPH-ข่าวภูมิภาค by สำนักสารนิเทศ
มหาสารคาม เตือนระวังโรคเลปโตสไปโรซีสในช่วงฤดูฝน
สถานการณ์โรคโรคเลปโตสไปโรซีสน่าห่วงที่จังหวัดมหาสารคามสถานการณ์โรคเลปโต
สไปโรซีล หรือโรคเยี่ยวหนูยังน่าห่วง เนื่องจากมีน้ำขัง
เกษตรกรส่วนใหญ่ทำนา ทำไร่ หาปลา เกี่ยวหญ้า ล่าสุดพบผู้ป่วยแล้วจำนวน 32
ราย ไม่มีผู้เสียชีวิต แพทย์หญิงเสาวลักษณ์ นาคะพงษ์
ผู้อำนวยการโรงพยาบาลมหาสารคาม กล่าวว่าปัจจุบัน
พี่น้องเกษตรกรส่วนใหญ่หาปลา เกี่ยวหญ้า ทำนา ตัดอ้อยและทำไร่มัน
เพื่อป้องกันโรคเลปโตสไปโรซีสที่ถูกต้อง
เกษตรกรจะต้องไม่ลงลุยน้ำขณะมีบาดแผลที่บริเวณฝ่าเท้า
มีการสวมรองเท้าบูทเพื่อป้องกันการเกิดบาดแผล
และสวมเสื้อผ้าให้รัดกุมป้องกันการเกิดบาดแผล
ปัจจุบันมีผู้ป่วยโรคเลปโตสไปโรซีสจำนวน 32 ราย ไม่มีผู้เสียชีวิต
อัตราป่วย 3.18 ต่อแสนประชากร ผู้ป่วย 3 ลำดับ คือ 1.
อำเภอกันทรวิชัยจำนวน 5 ราย อำเภอวาปีปทุม จำนวน 8 ราย และ
อำเภอกุดรังจำนวน 2 ราย ผู้ป่วยส่วนใหญ่เป็นเพศชาย อยู่ในวัยทำงาน
ประชาชนจะต้องป้องกันตนเองด้วยการสวมรองเท้าบู้ท สวมใส่เสื้อผ้าให้รัดกุม
เมื่อขึ้นจากน้ำจะต้องเปลี่ยนเสื้อผ้าอาบน้ำทันที
มีภูมิปัญญาชาวบ้านแนะนำให้นำผลไม้รสเปรี้ยว เช่น มะนาว มะกรูด
มะขามเปียก ทำความสะอาดบริเวณที่สัมผัสกับน้ำ โดยเฉพาะง่ามมือ ง่ามเท้า
จะเป็นการลดความรุนแรงของเชื้อโรคเลปโตสไปโรซีส
เพราะเชื้อโรคเลปโตสไปโรซีสจะอยู่ในภาวะเป็นด่าง
เมื่อถูกกรดจะทำให้เชื้ออ่อนตัวลงได้
อาการเริ่มแรกเมื่อเชื้อโรคเข้าสู่ร่างกายจะทำให้ผู้ป่วยครั่นเนื้อ
ครั่นตัว ปวดกล้ามเนื้อบริเวณขา บริเวณน่อง ปวดศีรษะอย่างรุนแรง
และมีไข้สูง หนาวสั่น
หากมีอาการดังกล่าวประชาชนไม่ควรซื้อยามารับประทานเอง
ควรรีบพบแพทย์เพื่อรับการรักษาที่ถูกต้องจะได้ปลอดภัยจากโรคเลปโตสไปโรซีส
ผู้อำนวยการโรงพยาบาลจังหวัดมหาสารคามฝากเตือนพี่น้องเกษตรกรจะต้องป้องกัน
ตนเองด้วยการไม่ลงแช่น้ำนาน หรือมีบาดแผลไม่ควรลงน้ำขังโดยเด็ดขาด
จัดบ้านเรือนให้สะอาดเรียบร้อย เป็นระเบียบ ไม่เป็นแหล่งเพาะเชื้อโรค
มีอาการสงสัยอย่าซื้อยารับประทานเองโดยเด็ดขาด
จะต้องรีบพบแพทย์เพื่อลดความรุนแรงของโรคเลปโตสไปโรซีส อรณต วัฒนะ ข่าว
21 มิถุนายน 2552

มหาสารคามเตรียมรับการตรวจเยี่ยมประเมินจากคณะกรรมการพัฒนาคุณภาพ

from MOPH-ข่าวภูมิภาค by สำนักสารนิเทศ
มหาสารคาม เตรียมรับการตรวจเยี่ยมประเมินจากคณะกรรมการพัฒนาคุณภาพ
โรงพยาบาลมหาสารคามเตรียมบุคลากรรองรับการประเมินเยี่ยมสำรวจเพื่อต่ออายุ
และประเมินระดับคุณภาพโดยทีม พรพ. (
สถาบันพัฒนาและรับรองคุณภาพโรงพยาบาล) ระหว่างวันที่ 16 - 17 มิถุนายน
2552 ณ ห้องประชุมตักสิลา โรงพยาบาลมหาสารคาม แพทย์หญิงเสาวลักษณ์
นาคะพงษ์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลมหาสารคาม
กล่าวว่าโรงพยาบาลมหาสารคามมีการพัฒนางานคุณภาพมาอย่างต่อเนื่องจนผ่านการ
รับรองมาตรฐานงานงานจากสถาบันพัฒนาและรับรองคุณภาพโรงพยาบาลในปี 2548
ซึ่งจะต้องมีการประเมินซ้ำเพื่อให้การรับรองในปี 2552 โดยทีมประเมิน พรพ.
สนใจจะมาดูงานที่ตึกผู้ป่วยนอก ห้องฉุกเฉิน ห้องผ่าตัด ห้องคลอด
ห้องทันตกรรม ห้องผู้ป่วยหนัก หอผู้ป่วยสูติกรรมสามัญ อายุกรรมชาย
ศัลยกรรมชาย เด็กเล็ก การบริหารขยะ น้ำเสีย อาคารสถานที่ ซ่อมบำรุง
ยานพาหนะ จ่ายกลาง ซักฟอก เวชระเบียน เภสัชกรรม
และการควบคุมการติดเชื้อของโรงพยาบาลมหาสารคาม
โดยทุกหน่วยงานมีการเตรียมเนื้อหานำเสนอ 5 นาที ผลงานเด่น
ความภาคภูมิใจทีตอบตัวชี้วัดของงานได้
พร้อมการประเมินตนเองตามบทบาทความรับผิดชอบ ตัวชี้วัด
ตามโครงการกิจกรรมต่างๆ
ด้านกิจกรรมมีการเตรียมความรู้ความเข้าใจของบุคลลากรในกระบวนการพัฒนาคุณภาพ
และด้านกิจกรรมมีกิจกรรมเด่นแสดงให้อาจารย์ได้เห็นเชิงประจักษ์
การตรวจเยี่ยมมีการจัดเวทีแลกเปลี่ยนเรียนรู้ตามเกณฑ์ที่ พรพ. กำหนด
ซึ่งคะแนนที่ได้จากการนำเสนอ เอกสาร และการตอบคำถามตามเกณฑ์ที่ระบุไว้
สำหรับการตรวจประเมินรับรองครั้งนี้
โรงพยาบาลมหาสารคามมีความพร้อมทั้งด้านบุคลลากร ข้อมูล อาคาร สถานที่
กิจกรรม ที่มุงมั่นพัฒนาให้เกิดการทำงานเป็นทีม
เกิดความภาคภูมิใจให้แก่ประชาชนที่มารับบริการ
และขอเป็นกำลังให้ทุกกลุ่มงานทำงานด้วยความ " มุ่งงาน เชี่ยวชาญ บริการดี
เป็นทีม เป็นธรรม พอเพียง " อรณต วัฒนะ ข่าว / พิมพ์ 16 มิถุนายน 52

มหาสารคามเป็นจังหวัดนำร่องในการพัฒนาศูนย์เรียนรู้สุขภาพสู่ชุมชน

าสารคามเป็นจังหวัดนำร่องในการพัฒนาศูนย์เรียนรู้สุขภาพสู่ชุมชน
from MOPH-ข่าวภูมิภาค by สำนักสารนิเทศ
มหาสารคาม เป็นจังหวัดนำร่องในการพัฒนาศูนย์เรียนรู้สุขภาพสู่ชุมชน
สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดมหาสารคามร่วมกับโรงพยาบาลมหาสารคาม
ได้พัฒนาระบบคุณภาพบริการมาอย่างต่อเนื่อง
เพื่อให้ประชาชนผู้รับบริการสะดวก รวดเร็ว ประทับใจ
และได้รับบริการที่มีมาตรฐานโดยเฉพาะในด้านสุขภาพที่สามารถดูแลตนเองได้
แพทย์หญิงเสาวลักษณ์ นาคะพงษ์
ผู้อำนวยการโรงพยาบาลมหาสารคามได้รับงบประมาณจากกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ
กระทรวงสาธารณสุขในการพัฒนาศูนย์การเรียนรู้ด้านสุขภาพในโรงพยาบาลมหาสารคาม
ในปี 2551 และในปี 2552
มีการขยายผลสู่สถานบริการสาธารณสุขทุกแห่งในพื้นที่อำเภอเมือง
จังหวัดมหาสารคาม ซึ่งมีคณะกรรมการผู้เชี่ยวชาญจากกองสุขศึกษา
กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ กระทรวงสาธารณสุข
เดินทางมาตรวจเยี่ยมการดำเนินงานในโครงการจังหวัดคุณภาพต้นแบบในปี 2552
จำนวน 21 แห่ง โดยมีคณะกรรมผู้รับผิดชอบงานสุขศึกษาของศูนย์สุขภาพชุมชน
จากกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ
กระทรวงสาธารณสุขจะออกนิเทศการดำเนินงานพัฒนาศูนย์เรียนรู้สุขภาพของของ
ชุมชนจำนวน 21 แห่ง ระหว่างวันที่ 22 - 26 มิถุนายน
ผู้อำนวยการโรงพยาบาลมหาสารคามขอความร่วมมือสถานบริการสาธารณสุขทุกแห่งให้
มีการพัฒนาศูนย์เรียนรู้สุขภาพเพื่อเป็นการพัฒนาคุณภาพบริการถือเป็นนโยบาย
เร่งด่วนที่ต้องพัฒนาหาส่วนขาด
นำส่วนที่เป็นปัญหามาจัดทำแผนยกระดับเพื่อที่จะพัฒนาศูนย์เรียนรู้สุขภาพให้
สถานบริการสาธารณสุขทุกระดับได้มาตรฐาน
เกิดความพึงพอใจแก่ผู้รับบริการมากที่สุด อรณต วัฒนะ ข่าว / พิมพ์ 15
มิถุนายน 52

วันอังคารที่ 23 มิถุนายน พ.ศ. 2552

ไข้เลือดออกน่าห่วง ไม่ถึงเดือนชาวมหาสารคามป่วยแล้ว 70 ราย

มหาสารคาม - สถานการณ์แพร่ระบาดของ โรคไข้เลือดออกน่าเป็นห่วง
ไม่ถึงเดือนพบผู้ป่วยเพิ่มกว่า 70 ราย แต่ยังไม่มีรายงานผู้เสียชีวิต
หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งฉีดยากำจัดลูกน้ำยุงลาย ควบคุมพื้นที่การระบาด


จากสภาพอากาศที่เอื้ออำนวยมีฝนเริ่มตกตั้งแต่ต้นปี
และทิ้งช่วงในระยะนี้
ส่งผลให้ยุงลายอันเป็นพาหะเชื้อไข้เลือดออกเข้าสู่คน
วางไข่และแพร่ขยายพันธุ์ได้อย่างรวดเร็ว
ล่าสุดพบผู้ป่วยเฉพาะเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลจังหวัดมหาสารคามแล้ว 76
ราย พบมากที่สุดพื้นที่อำเภอเมือง 34 ราย พยัคฆภูมิพิสัยจำนวน 16 ราย
และอำเภอนาเชือกจำนวน 5 ราย แต่ยังไม่มีรายงานผู้เสียชีวิต

อาการของผู้ป่วยโรคไข้เลือดออกที่พบจะมีไข้สูง ปวดศีรษะ อ่อนเพลีย
ซึม หน้าแดง ตัวแดง และปวดท้องรุนแรง สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดมหาสารคาม
จึงให้เจ้าหน้าที่สาธารณสุขและอาสาสมัครสาธารณสุขออกฉีดพ่นสารกำจัดตัวแก่
ยุงลาย ทั้งในบริเวณบ้าน และรอบบ้าน เพื่อควบคุมพื้นที่การระบาด

พร้อมฝากเตือนผู้ปกครองให้ดูแลบุตรหลานหากมีอาการดังกล่าวให้รีบนำ
บุตรหลานไปพบแพทย์เพื่อการรักษาที่ถูกต้อง ก่อนอื่นให้ดื่มน้ำมากๆ
เช็ดตัวเพื่อให้ไข้ลด และรีบพบแพทย์เพื่อการรักษาที่ถูกต้อง
ปัจจุบันเด็กและผู้ใหญ่สามารถป่วยเป็นโรคไข้เลือดออกได้
ฉะนั้นจะต้องให้ความร่วมมือในการทำลายแหล่งเพาะพันธ์ยุงลาย
ซึ่งเป็นต้นเหตุของการแพร่ระบาดของโรคต่อไป

วันเสาร์ที่ 20 มิถุนายน พ.ศ. 2552

ชาวมหาสารคามหวั่นติดหวัด 2009 แห่ตรวจสุขภาพแน่นโรงพยาบาล

โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 18 มิถุนายน 2552 11:27 น.
มหาสารคาม - ประชาชนชาวจ.มหาสารคาม
หวั่นติดเชื้อไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ฯ
แห่ตรวจสุขภาพแน่นโรงพยาบาลมหาสารคาม เผยต้องรับผู้ป่วยเพิ่มวันละกว่า
200 คน แนะเลี่ยงสถานที่แออัด หากป่วยมีไข้สูง ตัวร้อน อาเจียน
ควรรีบพบแพทย์

ภายหลังข่าวการระบาดของโรคไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009
ระบาดในประเทศไทย เพิ่มจำนวนผู้ผู้ติดเชื้อทั่วประทศรวดเร็ว มากกว่า 400
คน แม้ยังไม่มีรายงานผู้เสียชีวิตจากการเจ็บป่วยด้วยโรคดังกล่าว
แต่ก็ส่งผลให้ประชาชนตื่นตัวกับโรคดังกล่าวเป็นอย่างยิ่ง
โดยเฉพาะที่จังหวัดมหาสารคาม
ประชาชนในพื้นที่ตื่นตัวกับการป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009
สูงมาก

ประชาชนจำนวนมาก
ต่างเข้าไปใช้บริการตรวจสุขภาพที่โรงพยาบาลมหาสารคาม
โดยแต่ละวันโรงพยาบาลมหาสารคาม ต้องรับผู้ป่วยเพิ่มขึ้นวันละกว่า 200 ราย
ประกอบกับช่วงนี้สภาพอากาศแปรปรวน ตอนกลางวันร้อนจัด ช่วงเย็นกลับฝนตก
ส่งผลให้เด็กเล็ก และคนชราเจ็บป่วยเพิ่มสูงขึ้น

เจ้าหน้าที่โรงพยาบาลมหาสารคาม
ได้ให้คำแนะนำการสังเกตโรคไข้หวดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 ให้ความรู้
แจกหน้ากากอนามัย และเจลล้างมือให้แก่ผู้ป่วยและญาติ
ทั้งให้หลีกเลี่ยงสถานที่แออัด ห้างสรรพสินค้า โรงภาพยนตร์
ซึ่งเป็นแหล่งรวมของเชื้อโรค หากไม่สบายควรอยู่บ้าน
เพื่อลดการกระจายเชื้อโรค และหากผู้ป่วยมีอาการไข้สูง ตัวร้อน อาเจียน
ให้รีบมาพบแพทย์ ตรวจรักษาทางห้องปฏิบัติการ
เพื่อให้แน่ใจว่าปลอดภัยจากโรคไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009

ย้ำเงินกู้ 4 แสนล้านรัฐต้องบริหารโปร่งใสเพราะเป็นหนี้สาธารณะ

โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 16 มิถุนายน 2552 11:27 น.
มหาสารคาม - นักวิชาการ-พ่อค้าภูธรให้ความเห็นหลังสภาผ่านร่าง
พรก.เงินกู้4แสนล้านรัฐบาลต้องบริหารเม็ดเงินไม่รั่วไหล
บริหารเงินให้เป็นไปตามวัตถุประสงค์ ย้ำเงินกู้ 4 แสนล้าน
เป็นภาระหนี้ที่ประชาชนต้องร่วมรับผิดชอบเพราะเป็นหนี้สาธารณะ

หลังจากที่สภาโหวตเห็นชอบ พ.ร.ก.กู้เงิน 4 แสนล้าน ด้วยคะแนน 248
ต่อ 128 เสียง งดออกเสียง 3 และไม่ลงคะแนน 17 เสียง
มีเสียงสะท้อนจากนักวิชาการ
และประธานหอการค้าถึงการบริหารนโยบายด้านเงินของรัฐบาล

ดร.สุทธิพงษ์ หกสุวรรณ
นักวิชาการจากสถาบันการศึกษาชื่อดังในจังหวัดมหาสารคาม กล่าวว่า
ในภาวะเศรษฐกิจชะงักงัน การลงทุนชะลอตัว
เม็ดเงินที่จะลงไปในระบบเศรษฐกิจมีความจำเป็นอย่างยิ่ง
หากต้องการเห็นเศรษฐกิจของชาติฟื้นขึ้นมาจำเป็นต้องให้เม็ดเงินเหล่านี้
เข้ามาในระบบ ซึ่งรัฐบาลต้องมีความโปร่งใส ไม่มีการคอร์รัปชั่น
เม็ดเงินไม่รั่วไหล บริหารเงินให้เป็นไปตามวัตถุประสงค์ ซึ่งเงินกู้ 4
แสนล้านถือเป็นหนี้ที่ประชาชนต้องร่วมกันใช้ ถือเป็นหนี้สาธารณะ

ทั้งนี้ หากกู้มาแล้วสามารถทำให้เกิดประโยชน์สูงสุดก็ถือว่าเป็นเรื่องดี
ซึ่งหลายฝ่ายกำลังจับตามองรัฐบาลอยู่
รัฐบาลต้องบริหารให้เกิดประโยชน์และโปร่งใสมากที่สุด
หากไม่มีเงินกู้ก้อนนี้เชื่อว่าประเทศไทยก็ไปไม่รอด

ด้าน นายสุทิน พรมงคลชัย ประธานหอการค้าจังหวัดมหาสารคาม กล่าวว่า
เงินกู้สี่แสนล้านบาทที่รัฐบาลจะกู้เพื่อนำไปแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจ
รัฐบาลควรเร่งสร้างความเชื่อมั่นให้เกิดขึ้นกับทุกฝ่ายโดยเฉพาะภาคการเมือง
ซึ่งรัฐบาลกำลังถูกจับตามองอยู่ ส่วนการใช้จ่ายอย่างต้องเป็นไปโปร่งใส
และเกิดประสิทธิภาพสูงสุดโดยมีระบบตรวจสอบที่เข้มงวด

ขณะเดียวกัน
รัฐบาลควรกำหนดมาตรการและนำเงินกู้ไปแก้ไขปัญหาราคาพืชผลการเกษตรที่มีปัญหา
ด้านราคา โดยเฉพาะข้าว มันสำปะหลัง และผลไม้ที่ราคาตกต่ำ

คณะแพทย์ ม.มหาสารคาม รับน้องสร้างสรรค์ช่วยชาวบ้านดำนา

วันนี้ (15มิ.ย.) ที่แปลงนาเกษตรกร บ้านขามเรียง อ.กันทรวิชัย
จ.มหาสารคาม นักศึกษาจากคณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหาสารคาม
จัดกิจกรรมรับน้องใหม่ ประจำปี 2552 โดยพารุ่นน้องนิสิตแพทย์ปี 1
มาร่วมลงแขกดำนา หนึ่งในกิจกรรมรับน้องใหม่ของนิสิตคณะแพทยศาสตร์
ได้จัดกิจกรรมร่วมกับชาวบ้านที่อยู่รอบรั้วมหาวิทยาลัยฯ
ภายใต้แนวคิดการฝากตัวเป็น "ลูกฮัก เสมือนลูกในบ้าน ว่านในสวน"
อันเป็นส่วนหนึ่งของการเสริมสร้างสัมพันธภาพอันดีระหว่างมหาวิทยาลัยกับ
ชุมชน
โดยนิสิตแพทยศาสตร์ปี 1
ต่างตื่นเต้นกับการได้ลงแขกดำนาเป็นครั้งแรก นักศึกษาแต่ละคน
ตั้งอกตั้งใจช่วยกันมุ่งมั่นดำนากันอย่างเต็มที่
ทั้งนี้การลงแขกดำนานอกจากเป็นหนึ่งในกิจกรรมรับน้องใหม่แล้ว
ยังเป็นการสืบสานประเพณีและวัฒนธรรมของชาวอีสาน แสดงถึงความมีน้ำใจ
เอื้อเฟื้อเผื่อแผ่กันและกัน

ชาวท่าขอนยางชุมนุมไล่ปลัด ทต.ทั้งขี้เกียจเมินบริการเป็นบ่างช่างยุ

มหาสารคาม - ชาวบ้านกว่า 200 คนรวมตัวขับไล่ปลัดเทศบาลตำบลท่าขอนยาง
ละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ สร้างความแตกแยกในเทศบาล
ไม่อำนวยความสะดวกบริการประชาชน

ที่เทศบาลตำบลท่าขอนยาง อ.กันรวิชัย จ.มหาสารคาม
ชาวบ้านตำลท่าขอนยางจำนวน 19 หมู่บ้าน ประมาณ 200 คน นำโดยนายทอใส บญโฮง
ยื่นหนังสือร้องเรียนต่อนายศุภชัย บุตรราช นายกเทศบาลตำบลท่าขอนยาง

กรณีที่ชาวบ้านได้รับความเดือดร้อนจากการไม่ปฏิบัติหน้าที่ของว่า
ที่้ร้อยตรีอำนาจ สมน้อย ปลัดเทศบาลตำบลท่าขอนยาง
ซึ่งขาดการมีส่วนร่วมในชุมชน ไม่สนับสนุนกิจกรรมชุมชน
สร้างความแตกแยกในเทศบาล แบ่งฝักแบ่งฝ่าย ข่มขู่ลูกน้อง
ใช้วาจาไม่สุภาพกับประชาชนที่มาขอรับบริการที่เทศบาล
และไม่อำนวยคามสะดวกในการมาติดต่อราชการ เช่น
การขอรับแบบแปลนการก่อสร้างกว่าจะได้ยากมากใช้เวลานาน

อีกทั้งตั้งแต่มารับตำแหน่งปฏิบติงานมาได้ 8 เดือน
ไม่มีผลงานอะไรให้กับประชาชนชาวตำบลท่าขอนยาง ชาวบ้านจึงอยากให้ทาง
เทศาลตำบลท่าขอนยางสอบสวนพฤติกรรมการปฏิบัิติงาน
และให้ย้ายออกนอกพื้นที่โดยเร็วที่สุด

จากนั้นตัวแทนชาวบ้านได้เข้าประชุมกันที่ห้องประชุมชั้น 2
ของเทศบาล โดยมีนายเมธี สุพรรณฝ่าย นายอำเภอกันทรวิชัย เป็นประธาน
เพื่อหาข้อสรุป ซึ่งได้ข้อสรุปว่าทางเทศบาลฯ
จะตั้งคณะกรรมการสอบสวนพติกรรมของปลัดเทศบาล ว่าข้อเท็จจริงเป็นเช่นไร
และจะได้ดำเนินการตามระเบียบของทางราชการต่อไป

โรงพยาบาลมหาสารคามพร้อมรับมือไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009

มหาสารคาม - โรงพยาบาลมหาสารคามหวั่น ไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009
ระบาด วางมาตรการป้องกัน เตรียมพร้อมรับมือ
เบื้องต้นให้ความรู้ผู้ป่วยและญาติให้เฝ้าระวังป้องกัน
ทั้งแจกหน้ากากอนามัยสกัดการระบาด ชี้เตรียมห้องแยก อุปกรณ์
และบุคลากรดูแลเป็นกรณีพิเศษ

แพทย์หญิงเสาวลักษณ์ นาคะพงษ์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลมหาสารคาม
เปิดเผยว่า จากการแพร่ระบาดของโรคไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 ชนิด A
(H1N1) อย่างต่อเนื่องโดยองค์กรอนามัยโลกได้ประกาศเป็นโรคติดต่อรุนแรง
ขณะนี้มีจำนวนผู้ได้รับเชื้อทั่วโลกกว่า 20,000 ราย
ทั้งยังพบการระบาดในประเทศไทยมีผู้ติดเชื้อแล้วกว่า 100 ราย

โรงพยาบาลมหาสารคามตระหนักในความรุนแรงของเชื้อดังกล่าว
ที่อาจจะแพร่ระบาดถึงประชาชนในพื้นที่จังหวัดมหาสารคามได้
จึงได้รณรงค์ด้านการเฝ้าระวัง มีการประชาสัมพันธ์ จัดนิทรรศการ
ให้ความรู้ให้กับผู้ป่วยและญาติที่มารับบริการ
พร้อมกับแจกหน้ากากอนามัยป้องกันเชื้อให้กับประชาชนที่มาใช้บริการ
มีการคัดกรองคนไข้เพื่อความไม่ประมาท ประชาชนจะต้องล้างมือให้สะอาด
ใช้ช้อนกลาง รับประทานอาหารที่ปรุงสุกใหม่ๆด้วยความร้อน

ที่สำคัญหากพบว่าผู้ป่วยมีอาการไข้สูง ไอ หอบ อ่อนเพลีย
และมีประวัติเคยเดินทางมาจากต่างประเทศภายใน 5 วัน ไม่ควรนิ่งนอนใจ
รีบพบแพทย์เพื่อตรวจรักษาทันที

สำหรับแผนการให้บริการผู้ป่วยที่ติดเชื้อ โรงพยาบาลมหาสารคาม
มีการเตรียมความพร้อม โดยได้จัดห้องแยกโรค เวชภัณฑ์ ยา บุคลากร
และระบบส่งต่อ มีการซ้อมแผนภาคสนาม
กรณีการเกิดระบาดใหญ่ของโรคไข้หวัดใหญ่ สายพันธุ์ใหม่ ชนิด A (H1N1)
เพื่อบริการผู้ป่วยให้ปลอดภัยสูงสุด

"ฝากขอความร่วมมือประชาชนทุกคน
ร่วมกันป้องกันตนเองให้ปลอดภัยจากโรคไข้หวัดใหญ่ สายพันธุ์ใหม่ ชนิด A
(H1N1) ด้วยการออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ บริโภคอาหารที่ดีมีประโยชน์
พักผ่อนให้เพียงพอ หากมีอาการสงสัยรีบพบแพทย์เพื่อการรักษาที่ถูกต้อง"

ยันโครงการประกันราคาข้าวชาวนาได้ประโยชน์ รัฐประหยัดงบ

มหาสารคาม-ผอ.ธ.ก.ส.มหาสารคาม ชี้โครงการประกันราคาข้าวเปลือก
เกษตรกรได้รับประโยชน์สูงสุด ส่วนรัฐบาลเสียงบประมาณน้อยกว่ารับจำนำข้าว
หน่วยงานที่เกี่ยวข้องต้อหามาตรการป้องกันการทุจริตที่อาจเกิดขึ้น


นายณรงค์ งามพริ้ง
ผู้อำนวยการธนาคารเพื่อการเกษตรแะสหกรณ์การเกษตรจังหวัดมหาสารคาม
กล่าวว่า โครงการประกันราคาข้าวหอมมะลิ นำร่องใน 8 จังหวัด ได้แก่
จังหวัดสุรินทร์ บุีรัมย์ มหาสารคาม ยโสธร อุบลราชธานี อุดรธนี
นครราชสีมา และร้ยเอ็ด ในเป้าหมายปริมาณ 2 แสนตัน
ซึ่งในช่วงแรกเป็นการวางแนวทางร่วมกัน ทั้งสมาคมโรสีข้าว ธ.ก.ส.
และตัวแทนรัฐบาล
โดยให้เกษตรกรมาึ้ขึ้นทะเบียนเพื่อขอเ้ข้าร่วมโครงการประกันราคา

ในช่วงเวลาดังกล่าวหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะคำนวณต้นทุนการผลิต
เช่น ค่าจ้างแรงงาน ค่าเช่าที่ดิน
และผลกำไรที่ควรได้รับว่าเกษตรกรควรได้รับเท่าไหร่
ตรงนี้คือผลประโยชน์ต่อเกษตรกรโดยตรง

ยกตัวอย่าเช่น
รัฐบาลประกันราคาข้วเปลือกช่วงเดือนธันวาคมไว้ที่ราคาตันละ 14,000 บาท
ซึ่งในช่วงเวลานั้นหากเกษตรกรนำข้าวไปขายให้โรงสีได้ราคาตันละ 13,000 บาท
ส่วนต่าง 1,000 บาท
รัฐบาลจะเป็นผู้จ่ายให้เกษตรกรที่เ้ข้าร่วมโครงการประกันราคาข้าว
แต่หากในช่วงเวลาดังกล่าวเกษตรกรนำข้าวไปขายได้มากกว่าตันละ 14,000 บาท
ส่วนที่เกินเกษตรกรก็จะได้รับไป

เพราะฉะนั้น ผลประโยชน์โดยตรงจะเกิดกับเกษตรกร
แต่สิ่งที่เป็นห่วงคือ
เรื่องความโปร่งใสของราคารับซื้อและการกำหนดราคาประกันนั้น
ทางหน่วยงานเกี่ยวข้องจะร่วมกันดูแลไม่ให้เกิดการทุจรตหรือฮั้วกันระหว่า
ฝ่ายต่างๆ ซึ่งจะต้องหามาตรการป้องกันและแก้ไขเพื่อไม่ให้การทุจจิตเกิดขึ้น
หรือการรับซื้อไม่เป็นไปตามกลไกตลาด

นอกจากเกษตรกรจะได้รับผลประโยชน์โดยตรงจากโครงการนี้แล้ว
รัฐบาลก็จะเสียงบประมาณน้อยกว่าการรับจำำนำข้าวเปลือกที่ผ่านมาอีกด้วย
เนื่องจากการรับจำนำข้าวเปลือกที่ผ่านมารัฐบาลตั้งราคาไว้สูงกว่าราคาท้อง
ตลาด แต่เื่มื่อถึงเวลาขายให้โรงสีประมูลไปต่ำกว่าราคาจำนำทำให้รัฐบาลเีสียง
บประมาณค่อนข้างสูง

แพทย์-พยาบาล รพ.มหาสารคาม ฉีดวัคซีนป้องกันหวัดใหญ่พันธุ์ใหม่

โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 14 มิถุนายน 2552 17:44 น.
มหาสารคาม- แม้ว่าไข้หวัดใหญ่ 2009
จะไม่แพร่ระบาดที่จังหวัดมหาสารคาม แ่ต่เพื่อความไม่ประมาท
โรงพยาบาลมหาสารคาม แจกหน้ากาก และหยอดเจลล้างมือให้แก่ผู้ป่วย
พร้อมฉีดวัคซีนป้องกันไข้หวัดใหญ่ให้แก่กล่มแพทย์ พยาบาล
และเจ้าหน้าที่โรงพยาบาล เนื่องจากต้องทำงานใกล้ชิดผู้ป่วย
เพื่อลดความเสี่ยงการติดเชื้อ

ที่โรงพยาบาลมหสารคาม หลังจากที่มีองค์การอนามัยโลก (WHO)
เพิ่มระดับความุนแรงของโรคไข้หวัดสายพันธุ์ใหม่ เป็นระดับ 6
ซึ่งถือเป็นการระบาดทั่วโลก และยังมีการพบผู้ติดเชื้อที่กรุงเทพฯ พัทยา
และอีกหลายจังหวัด มีผู้ติดเชื้อในประเทศแล้วกว่า 80 ราย
ส่งผลให้ประชาชนในจังหวัดมหาสารคามกลับมาตื่นตระหนกอีกครั้ง
กับการแพร่ระบาดครั้งใหม่

อย่างไรก็ตาม ถึงแม้ว่าจะยังไม่พบการแพร่ระบาดในจังหวัดมหาสารคาม
แต่โรงพยาบาลมหาสารคามก็ไม่ได้นิ่งนอนใจ ซึ่งได้มีการแจกหน้ากากอนามัย
ให้กับผู้ป่วยที่มีอาการไอ จาม พร้อมทั้งหยอดเจลล้างมือให้แก่ผู้ป่วย
เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อโรค พร้อมให้คำแนะนำในการป้องกันโรค
ด้วยการกินอาหารที่ปรุงสุกใหม่ๆ ล้างมือบ่อยๆ และออกกำลังกายสม่ำเสมอ

นอกจากนี้ ยังมีการฉีดวัคซีนป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่ ให้แก่แพทย์
พยาบาล และเจ้าหน้าที่ของโรงพยาบาลที่ต้องทำงานใกล้ชิดกับผู้ป่วย
เพื่อสร้างภูมิคุ้มกัน และลดความเสี่ยงการติดเชื้อโรคเข้าสู่ร่างกาย

วันเสาร์ที่ 13 มิถุนายน พ.ศ. 2552

มหาสารคามเตือนมหันตภัยเงียบของโรควัณโรค

from MOPH-ข่าวภูมิภาค by สำนักสารนิเทศ
มหาสารคาม เตือนมหันตภัยเงียบของโรควัณโรค โรงพยาบาลมหาสารคาม
เตือนประชาชน นักเรียน นิสิต นักศึกษา ให้ระมัดระวัง
มหันตภัยเงียบของโรควัณโรค ที่มีการระบาดมากขึ้น
มีเหตุมาจากการป่วยเป็นโรคเอดส์ และภูมิคุ้มกันบกพร่อง
และมีแนวโน้มเกิดขึ้นในผู้ป่วยรายใหม่เพิ่มขึ้น แพทย์หญิงเสาวลักษณ์
นาคะพงษ์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลจังหวัดมหาสารคาม
กล่าวว่าวัณโรคเป็นโรคติดต่อที่แพร่ระบาดอย่างรวดเร็ว
องค์การอนามัยโลกกำหนดคำขวัญการรณรงค์ใน ปี2552 ว่า " รวมพลังเร่งรัด
หยุดยั้งวัณโรค " ปัจจุบันประเทศไทยพบผู้ป่วยวัณโรคปอดปีละ 3 หมื่นถึง 4
หมื่นรายต่อปี จัดว่าอยู่ในลำดับที่ 19 ของโลกจาก 22
ประเทศที่มีปัญหาวัณโรค
ส่วนใหญ่ในประเทศไทยพบปัญหาคือการค้นพบผู้ป่วยวัณโรครายใหม่ต่ำกว่าเป้าหมาย
ขององค์กรอนามัยโลกกำหนด และอัตราการรักษาด้วยยาไม่ต่อเนื่อง
จึงทำให้เกิดอาการดื้อยา ทำให้รักษาโรคไม่หาย และในปี 2550
กรมควบคุมโรคได้จัดโครงการน้ำพระทัยขจัดภัยวัณโรค
เพื่อถวายเป็นพระราชกุศลแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงมีพระชนม์ 8
พรรษา และเป็นการขจัดภัยร้าย ของวัณโรคไม่ให้เป็นปัญหาสาธารณสุข
ผู้อำนวยการโรงพยาบาลจังหวัดมหาสารคามย้ำอาการแรกของผู้ป่วยวัณโรคคือ
ไอเรื้อรังเกิน 3 เดือนมีไข้ต่ำๆ อ่อนเพลีย เหนื่อยง่าย เบื่ออาหาร
น้ำหนักตัวลด และเคยมีประวัติการสูบบุหรี่ การทำงานเกี่ยวกับฝุ่นละเอียด
เช่น พนักงานปัดกวาดถนน การทำงานโรงสีข้าว โรงงานมันสับปะหลัง
โรงงานแปรรูปไม้ และโรงงานเฟอร์นิเจอร์ไม้ หรือเป็นผุ้ป่วยเอดส์
ดังนั้นควรมีการตรวจสุขภาพร่างกายอย่างน้อยปีละ 1
ครั้งเน้นการเอ็กซเรย์ปอดเพื่อเป็นการคัดและเฝ้าระวังโรควัณโรคก่อนที่จะ
เกิดโรคที่ไม่สามารถรักษาได้ อรณต วัฒนะ ข่าว / พิมพ์ 12 มิถุนายน 2552

วันศุกร์ที่ 12 มิถุนายน พ.ศ. 2552

ย้ำรัฐใช้เงินกู้ 4 แสนล้านอย่างโปร่งใส ประเดิมแก้ปัญหาราคาผลผลิตภาคการเกษตร

มหาสารคาม - ประธานหอการค้ามหาสารคาม แนะภาครัฐนำเงินกู้ 4
แสนล้านแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจ โดยเฉพาะราคาผลิตผลการเกษตร
สร้างความเชื่อมั่นให้เกิดการลงทุน และมีการตรวจสอบที่เข้มงวด
ขณะที่ไตรมาส 2 สภาวะศรษฐกิจในพื้นที่กระเตื้องขึ้น
เพราะอยู่ในช่วงเปิดเทอม

นายสุทิน พรมงคลชัย ประธานหอการค้าจังวัดมหาสารคาม กล่าวว่าเงิน 4
แสนล้านบาทที่รัฐบาลจะกู้เพื่อนำไปแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจนั้น
ขั้นแรกรัฐบาลควรเร่งสร้างความเชื่อมั่นให้เกิดขึ้นกับทุกฝ่ายโดยเฉพาะภาค
การเมืองที่ยังแบ่งเป็นกลุ่มและขั้วอำนาจ
ส่วนการใช้จ่ายต้องเป็นไปอย่างโปร่งใส และเกิดประสิทธิภาพสูงสุด
โดยมีระบบตรวจสอบที่เข้มงวด

ขณะเดียวกัน
รัฐบาลควรกำหนดมาตรการและนำเงินกู้ไปแก้ไขปัญหาราคาพืชผลการเกษตรที่มีปัญหา
ด้านราคา โดยเฉพาะข้าว มันสำปะหลัง และไม้ผลที่มีปัญหาด้านราคา
ซึ่งมาตรการที่ใช้ไม่ควรให้ตกไปอยู่ในกลุ่ม
ผลประโยชน์ของกลุ่มเครือข่ายนักการเมืองและพ่อค้า
แต่ควรให้ถึงมือเกษตรกรอย่างแท้จริง
นอกจากนี้ควรจัดให้มีโครงการลงทุนจากภาครัฐ
เพื่อช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจหากปล่อยให้นักธุรกิจคิดลงทุนฝ่ายเดียวจะเป็นไปได้
ยากและช้า

ส่วนภาวะเศรษฐกิจของจังหวัดมหาสารคามในช่วงไตรมาส 2 ดีขึ้น
หลังจากสถาบันการศึกษาหลายแห่งเริ่มเปิดเรียนมีนักศึกษาเข้าเรียน กว่า
60,000 คน ทำให้ธุรกิจหอพัก ร้านอาหาร และสินค้าอื่นๆมียอดขายสูงขึ้น
และระยะนี้อยู่ในช่วงฤดูกาลทำ เกษตรกรมีการหาซื้อของใช้ในด้านการเกษตร
เช่น รถไถ ปุ๋ยเคมี อุปกรณ์ทางการเกษตรที่ใช้ในการทำนา
ทำให้เกิดการใช้จ่ายเพิ่มมากขึ้น
เชื่อว่าในไตรมาสต่อไปเศรษฐกิจโดยรวมของประเทศน่าจะดีขึ้น

วันพุธที่ 10 มิถุนายน พ.ศ. 2552

พิลึก! สพท.เขต 3 มหาสารคามสั่งสอบครูให้ข่าว ร.ร.หนองเดิ่นขาดแคลนโต๊ะ-เก้าอี้

มหาสารคาม - ชาวบ้านรวมตัวเรียกร้อง สพท.มค.เขต 3
กรณีตั้งกรรมการสอบสวนครู หลังให้ข่าวสื่อมวลชนกรณีโรงเรียนขาดแคลนโต๊ะ
เก้าอี้ ที่ใช้ในการเรียนการสอน
ชาวบ้านติดใจคำพูดคณะกรรมการสอบสวนถามครูเอาสมองส่วนไหนคิดที่ไปให้สัมภาษณ์
ผู้สื่อข่าวในเรื่องไม่ดี ทำให้เขตพื้นทีเสียหาย

เื่มื่อเวลา 10.30 น.วันนี้ (9 มิ.ย.)
ได้มีชาวบ้านและตัวแทนผู้ปกครองนักเรียนจากโรงเรียนบ้านหนองเดิ่น ต.นาทอง
อ.เชียงยืน จ.มหาสารคาม กว่า 50 คน นำโดย นายถวิล สีทอนสุด
กรรมการหมู่บ้านและกรรมการสถานศึกษาโรงรียนบ้านหนองเดิ่น
เดินทางเข้ายื่นหนังสือขอความเป็นธรรมกับสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา
(สพ.) มหาสารคาม เขต 3 อ.โกสุมพิสัย จ.มหาสารคาม

กรณีที่ครูและกรรมการสถานศึกษาโรงเรียนบ้านหนองเดิ่น
ถูกสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา(สพท.) มหาสารคาม เขต 3 อ.โกสุมพิสัย
ตั้งกรรมการสอบสวน
หลังจากออกมาให้ข่าวกับสื่อมวลชนกรณีโรงเรียนบ้านหนอเดิ่น ขาดแคลนโต๊ะ
เ้ก้าอี้ และอุปกรณ์การเรียนการสอน

นายถวิล สีทอนสุด กรรมการสถานศึกษาโรงเรียนบ้านหนองเดิ่น กล่าวว่า
การที่คณะครูและกรรมการสถานศึกษาของโรงเรียนออกมาให้ข่าวกับสื่อมวลชน ว่า
โรงเรียนขาดแคลนงบประมาณจัดซื้อโต๊ะเก้าอี้ และอุปกรณ์การเรียนการสอน
เพราะสงสารเด็กและลูกหลานที่เรียนตามมีตามเกิด
ก็เพื่อหวังว่าอาจมีผู้มีจิตศรัทธา
หรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องยื่นมือเข้ามาช่วยเหลือบ้าง

เพราะสงสารลูกหลานที่เรียนตามมีตามเกิด
ไม่มีโ๊ต๊ะเก้าอี้นั่งเรียนหมือนโรงเรียนอื่น เด็กๆ ไม่มีสมาธิเรียน
ซึ่งไม่ได้มีเจตนาอื่นใดแอบแฝง แต่กลับถูกสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา
(สพท.) มหาสารคาม เต 3 อ.โกสุมพิสัย
สั่งตั้งกรรมการสอบสวนเอาผิดกับคณะครูโรงเรียนบ้านหนองดิ่นทุกคน

จึงอยากมาเรียกร้องขอความเป็นธรรม การที่ครูให้ข่าวออกไปแบบนั้น
ผิดกฎระเบียบข้อไหน ทำไมต้องมาตั้งคณะกรมการสอบสวนด้วย
อีกทั้งตอนลงพื้นที่ไปดูสภาพโรงเรียน ได้มีเจ้าหน้าที่บางคนพูดจาไม่สุภาพ
ถามครูผู้สอนว่าเอาสมองส่วนไหนคิดที่ไปให้ข่าวกับผู้สื่อข่าวแบบนั้น
ทำให้เขตพื้นที่การศึกษาได้รับความเสียหาย เสื่อมเสียชื่อเสียง

ทั้ง ที่ข้อมูลที่ครูผู้สอนได้ให้ผูื้่สื่อข่าวไปนั้น
ล้วนแต่เป็นข้อมูลจริง และไม่ได้มีเจตนาอื่นแอบแฝง
เพียงแต่อยากให้ลูกหลานไดี้มีอุปกรณ์การเรียนเหมือนโรงเรียนอื่นเท่านั้น

ด้าน นายชัยณงค์ แหงคำ รองผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา
(สพท.) มหาสารคาม เขต 3 อ.โกสุมพิสัย จ.มหาสารคาม กล่าวว่า
กรณีัดังกล่าวน่าจะเป็นเรื่องเข้าผิดหรือสื่อความหมายไม่ถูกต้อง
การที่สั่งตั้งกรรมการสอบสวนคณะครูโรงเรียนบ้านหนองเดิ่นนั้น
ไม่ใช่จะเอาผิดกับครู
แต่เป็นการตั้งกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงว่าโรงเรียนต้องการหรือขาดเหลืออะไร
เพราะทางสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา (สพท.) มหาสารคาม เขต 3
อ.โกสุมพิัสัย ก็มีแผนจะพัฒนาโรงเรียนขนาดล็กให้มีประสิทธิภาพ ได้มาตรฐาน

ยืน ยันว่า เราไม่ได้ทอดทิ้งแต่อย่างใด
เพียงแต่ลงไปตรวจสอบเพื่อรับทราบสภาพปัญหาข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นในโรงเรียน
เท่านั้น ซึ่งจะได้เรียกประชุมผู้อำนวยการโรงเรียนในพื้นที่เขต 3
เพื่อหารือในการจัดการเรียนการสอนสำหรับโรงเรียนขนาดเล็ก
ให้เป็นไปในแนวทางเดียวกันต่อไป ส่วนข้อเรียกร้องอื่นๆ
ทีื่่ยื่นมาจะได้นำเสนอต่อผู้บังคับบัญชาต่อไป

ชาวนามหาสารคามจำนำข้าวนาปรังแล้วกว่า2หมื่นตัน ธ.ก.ส.ขอเพิ่มโควต้าอีกกว่า2หมื่นตัน

มหาสารคาม - ธ.ก.ส.มหาสารคาม
จ่ายสินเชื่อตามโครงการรับจำนำข้าวเปลือกนาปรังแล้วกว่า 250 ล้านบาท
มีเกษตรกรนำข้าวเข้าร่วมโครงการกว่า 20,000 ตัน
เตรียมขอโควตาเพิ่มอีกกว่า 30,000 ตัน
รองรับเกษตรกรที่จะนำข้าวเปลือกมาจำนำ

นายณรงค์ งามพริ้ง
ผู้อำนวยการธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตรจังหวัดมหาสารคาม
กล่าวว่า ตามที่จังหวัดมหาสารคามได้เปิดรับจำนำข้าวเปลือกนาปรัง
ซึ่งปีนี้เป็นปีแรก เกษตรกรตื่นตัวมาก
ซึ่งที่ผ่านมาราคาข้าวเปลือกในพื้นที่ค่อนข้างต่ำ อยู่ที่ตันละ
7,000-8,000 บาท ซึ่งเมื่อมีโครงการจำนำข้าวราคาอยู่ที่ตันละ 11,800 บาท
ทำให้มีเกษตรกรเข้าร่วมโครงการจำนวนมาก

ล่าสุดมีเกษตรกรที่เข้าร่วมโครงการแล้วกว่า 21,000 ตัน ซึ่งทาง
ธ.ก.ส.ได้จ่ายสินเชื่อไปแล้วกว่า 250 ล้านบาท

จากการที่รัฐบาลมีมติให้เพิ่มโควตาการจำนำข้าวอีก 2 ล้านตัน
ในส่วนของจังหวัดมหาสารคามได้ขอโควตาไปอีก 38,000 ตัน
ส่งผลให้เกษตรกรที่ยังมีข้าวเปลือกอยู่ในมือ ที่ยังไม่ได้ขายให้กับโรงสี
มีโอกาสนำข้าวเปลือกเข้าร่วมโครงการ
อยากให้เกษตรกรรีบเข้ามาติดต่อกับทางธนาคารฯ

ทั้งนี้ทั้งนั้น
ข้าวเปลือกที่นำมาเข้าร่วมโครงการจะต้องเป็นข้าวเปลือกของเกษตรกรเอง
ห้ามนำข้าวเปลือกของบุคคลอื่น ไม่ว่าจะเป็นเพื่อนฝูง
หรือนายทุนมาสวมสิทธิ์เด็ดขาด หากจับได้จะต้องถูกดำเนินคดีทางอาญา
และถือเป็นคดีร้ายแรงด้วย

นอก จากนี้
ในช่วงเริ่มต้นของการเปิดรับจำนำข้าวเปลือกนาปรังได้มีปัญหาในเรื่องของ
จำนวนเกษตรกรที่มาแจ้งขึ้นทะเบียนผู้ปลูกข้าว
ไม่ตรงกับปริมาณข้าวเปลือกนั้น
ขณะนี้อยู่ในระหว่างคณะกรรมการอำเภอกำลังตรวจสอบหาข้อเท็จจริงอยู่
ซึ่งผลเป็นอย่างไรจะได้แจ้งให้ทราบต่อไป

พ่นยากำจัดลูกน้ำยุงลายทั่ว ว.พยาบาลศรีมหาสารคาม หลังต้องสงสัย 2 นศ.ติดเชื้อชิคุนกุนยา

มหาสารคาม - เทศบาลเมืองมหาสารคาม ฉีดพ่นสารเคมีกำจัดลูกน้ำยุงลาย
ที่วิทยาลัยพยาบาลศรีมหาสารคาม หลังจากมีข่าว 2
นักศึกษาต้องสงสัยป่วยโรคชิคุนกุนยา

รายงานข่าวแจ้งว่า เทศบาลเมืองมหาสารคาม
สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดมหาสารคาม และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
ฉีดพ่นสารเคมีกำจัดลูกน้ำ ยุงลายที่วิทยาลัยพยาบาลศรีมหาสารคาม
หลังจากที่มีข่าว 2 นักศึกษาเฝ้าระวังป่วยด้วยโรคชิคุนกุนยา
หลังเดินทางมาจากภูมิลำเนาในพื้นที่ชายแดนภาคใต้ เพื่อมาศึกษาต่อ

ซึ่งทางวิทยาลัยไดมีการซักถามประวัตย้อนหลัง คัดกรองผู้ป่วย
และตรวจร่างกายนักศึกษา
อีกทั้งยังให้เทศบาลเมืองมหาสารคามมาฉีดพ่นสารเคมีบริเวณโดยรอบวิทยาลัย
อาคารเรียน ห้องเรียน หอประชุม ห้องทำงานครูอาจารย์ และหอพักนักศึกษา
เพื่อกำจัดแหล่งเพาะพันธุ์ลูกน้ำยุงลาย
และป้องกันการแพร่ระบาดของโรคไข้เลือดออก ซึ่งขณะนี้ 2
นักศึกษาได้ออกจากโรงพยาบาลกลับมาเรียนต่อได้แล้ว

วันจันทร์ที่ 8 มิถุนายน พ.ศ. 2552

มหาสารคามเตือนประชาชนระวังโรคชิคุนกุนยา

from MOPH-ข่าวภูมิภาค by สำนักสารนิเทศ
มหาสารคาม เตือนประชาชนระวังโรคชิคุนกุนยา
โรงพยาบาลมหาสารคามเตือนประชาชนที่ไปทำงานในจังหวัดชายแดนภาคใต้
ระวังโรคชิคุนกุนยาที่ระบาดหนักสาเหตุเกิดจากยุงลายมีเชื้อกัดคนทำให้เกิด
อาการมีไข้สูง แพทย์หญิงเสาวลักษณ์ นาคะพงษ์
ผู้อำนวยการโรงพยาบาลมหาสารคาม กล่าวว่า
โรคชิคุนกุนยาเป็นโรคติดต่อที่มียุงลายเป็นพาหะนำโรคมาสู่คนเรา
มักพบการระบาดในฤดูฝนส่วนใหญ่เกิดในจังหวัดชายแดนภาคใต้
ผู้ป่วยจะมีอาการไข้สูงฉับพลัน ซึม มีผื่นแดง ปวดกล้ามเนื้อ ปวดกระบอกตา
มีเลือดออกตามผิวหนัง
เกิดได้ทั้งในเด็กและผู้ใหญ่แต่อาการในผู้ใหญ่จะรุนแรงกว่าเด็ก
ขณะนี้ยังไม่มีวัคซีนป้องกันและรักษาได้
สำหรับการป้องกันโรคชิคุนกุนยาคือการกำจัดยุงลายที่เป็นพาหะนำโรคด้วยการปิด
ฝาภาชนะภายในบ้านให้เรียบร้อย จัดสภาพแวดล้อมบ้านเรือนให้สะอาด
ใส่ทรายอะเบททรายอะเบทเพื่อฆ่าลูกน้ำยุงลาย กางมุ้งให้เด็กตัวเล็ก
ไม่ให้เด็กเล่นในที่มืด ในขณะเด็กดูทีวีจะต้องจุดยากันยุง เปิดพัดลมให้
กำจัดลูกน้ำในแหล่งน้ำ เช่น อ่างน้ำ แจกัน ขารองตู้กับข้าว
คว่ำภาชนะที่มีน้ำขังหรือเศษวัสดุที่น้ำขังได้
รวมทั้งการฉีดพ่นหมอกควันเพื่อกำจัดแหล่งเพาะพันธุ์ลูกน้ำยุงลาย
หากมีอาการไข้สูง ซึม อ่อนเพลีย มีผื่นขึ้นตามตัว
ขณะนี้มีผู้ป่วยเกิดมากขึ้น
หากมีอาการสงสัยให้รีบมาพบแพทย์เพื่อรับการรักษาที่ถูกต้อง
ผู้อำนวยการโรงพยาบาลมหาสารคาม
เตือนประชาชนที่ไปทำงานในจังหวัดชายแดนภาคใต้ให้ระมัดระวังดูแลสุขภาพของตน
เองอย่าให้ยุงลายกัด บริโภคอาหารที่สุก สะอาด ปลอดภัย
มีประโยชน์ต่อร่างกาย พักผ่อนให้เพียง ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอทุกวันๆละ
30 นาที ขอความร่วมมือประชาชนทุกครอบครัว สถานที่ราชการ และสถานศึกษา
ทุกแห่งจะต้องทำความสะอาดบริเวณโรงเรียน บริเวณบ้าน ทุก 7 วัน
กำจัดเศษวัสดุกระป๋อง กะลา ยางรถยนต์ที่สามารถขังน้ำได้
ขัดล้างภาชนะใส่น้ำทุก 7 วัน ปิดฝาภาชนะใส่น้ำดื่ม น้ำใช้ 2 ชั้น
ปล่อยปลากินลูกน้ำ และใส่ทรายอะเบทเพื่อฆ่าลูกน้ำยุงลาย
หากบุตรหลานมีไข้สูง ซึม อ่อนเพลีย อาเจียน เบื่ออาหาร หน้าแดง
และมีผิวหนังแดง ให้ดื่มน้ำมากๆ เช็ดตัวเพื่อลูกไข้
และรีบพบแพทย์เพื่อการรักษาที่ถูกต้อง
ฉะนั้นจะต้องให้ความร่วมมือในการทำลายแหล่งเพาะพันธ์ยุงลายเป็นการตัดไฟต้น
ลม "ไม่มีลูกน้ำ ไม่มียุงลาย ไม่มีโรคชิคุนกุนยา"
ด้วยความปรารถนาดีจากโรงพยาบาลมหาสารคาม อรณต วัฒนะ ข่าว / พิมพ์ 8
มิถุนายน 2552

มหาสารคามพ่นยากำจัดลูกน้ำยุงลายทั่ว ว.พยาบาลศรีมหาสารคามหลังต้องสงสัย2นศ.ติดเชื่อชิคุนกุนยา

from MOPH-ข่าวภูมิภาค by ASTV ผู้จัดการออนไลน์
รายงาน ข่าวแจ้งว่า เทศบาลเมืองมหาสรคาม
สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดมหาสารคาม และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
ฉีดพ่นสารเคมีกำจัดลูกน้ำ ยุงลายที่วิทยาลัยพยาบาลศรีมหาสารคาม
หลังจากที่มีข่าว 2 นักศึกษาเฝ้าระวังป่วยด้วยโรคชิคุนกุนยา
หลังเดินทางมาจากภูมิลำเนาในพื้นที่ชายแดนภาคใต้ เพื่อมาศึกษาต่อ
ซึ่งทางวิทยาลัยฯ ไดมีการซักถามประวัตย้อนหลัง คัดกรองผู้ป่วย
และตรวจร่างกายนักศึกษา
อีกทั้งยังให้เทศบาลเมืองมหาสารคามมาฉีดพ่นสารเคมีบริเวณโดยรอบวิทยาลัยฯ
อาคารเรียน ห้องเรียน หอประชุม ห้องทำงานครูอาจารย์ และหอพักนักศึกษา
เพื่อกำจัดแหล่งเพาะพันธุ์ลูกน้ำยุงลาย
และป้องกันการแพร่ระดของโรคไข้เลือดออก ซึ่งขณะนี้ 2
นักศึกษาได้ออกจากโรงพยาบาลกลับมาเรียนต่อได้แล้ว

วันศุกร์ที่ 5 มิถุนายน พ.ศ. 2552

"ชิคุนกุนยา" ระบาดถึงอีสานพบ นศ.พยาบาลต้องสงสัย 2 ราย

มหาสารคาม - พบผ้ป่วยต้องสงสัยเป็นโรคชิคุนกุนยาจำนวน 2 ราย
โดยเป็นนักศึกษาตามโครงการผลิตพยาบาลเพื่อแก้ปัญหาแพทย์
พยาบาลขาดแคลนในพื้นที่ภาคใต้
หลังจากที่เดินทางกลับภูมิลำเนาในช่วงปิดเทอม


ที่วิทยาลัยพยาบาลศรีมหาสารคาม นางนฤมล เอนกิทย์
ผู้อำนวยการวิทยาลัยพยาบาลศรีมหาสารคาม กล่าวว่า
ในช่วงปิดภาคเรียนที่ผ่านมา นักศึกษาจาก 5 จังหวัดชายแดนภาคใต้จำนวน 135
คน ได้เดินทางกลับภูมิลำเนา ซึ่งเป็นช่วงที่โรคชิกุนคุนยา
หรือโรคไข้ปวดข้อยุงลายกำลังระบาดในพื้นที่ภาคใต้

ขณะนี้ทางวิทยาลัยฯ ได้เปิดภาคเรียนแล้ว
นักศึกษาเดินทางกลับมาเรียน ซึ่งทางวิทยาลัยฯ มีมาตรการในการควบคุม
ป้องกันการระบาดของโรค โดยให้นักศึกษาตอบแบบสอบถามประวัติย้อนหลัง
ซักประวัติ ตรวจร่างกายเพื่อประเมินอาการไข้

ล่าสุด นักศึกษา 2 คนที่กลับจากภูมิลำเนาในภาคใต้มีอาการไข้สูง
มีผื่นและปวดข้อ จึงได้นำส่งโรงพยาบาลมหาสารคามเพื่อดูอาการ
และเจาะเลือดส่งห้องแล็บเพื่อรอผลการปฏิบัติการทางการแพทย์ต่อไป

วันพุธที่ 3 มิถุนายน พ.ศ. 2552

ชาวโกสุมพิสัยโอดถนนเละท้องถิ่นเมินซ่อม

มหาสาคาม - ชาวบ้านจาก 2 ตำบล ใน อ.โกสุมพิสัย เดือดร้อนหนัก
ถนนที่ใช้สัญจรไปมาระหว่างหมู่บ้านเป็นหลุมเป็นบ่อตลอดสาย
วอนหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งช่วยเหลือ

นายหนูเย็น เดยะดี ผู้ใหญ่บ้นหมู่ 12 บ้านยางหัช้าง ต.ยางน้อย
อ.โกสุมพิสัย จ.มหาสรคาม ตัวแทนชาวบ้าน กล่าวว่า ชาวบานจาก 2 ตำบล 19
หมู่บ้าน ได้รับความเือดร้อนอย่างมาก เนื่อจากสภาพของถนนเป็นหุมเป็นบ่อ
ซึ่งเมื่อก่อนถนนสายนี้เคยเป็นถนนของ รพช.
แต่ปัจจุบันได้โอนเป็นของหน่วยงานทางหลวงชนบทและผู้รับผิดชอบ คือ
องค์การบริหารส่วนจัหวัด ระยะทาง 8,277 กม. ถนนสายนี้ได้สร้างตั้งแต่
พ.ศ.2538 ถนนก็พังมาเรื่อยๆ ทางหน่วยงาน รพช.ก็ไม่มีงบประมาซ่อมแซม

ถนนสายนี้ถือเป็นถนนสายธุรกิจ ที่มีการสัญจรไปมาอยู่ตลอดเวลา
ชาวบ้านใ้ช้เป็นเส้นทางการเกษร ทั้งขนข้าวเปลือกไปขาย
อีกทั้งยังมีธุรกิจขายส่งพันธุ์ปลา แต่ถนนการสัญจรไม่เอื้อประโยชน์
ถนนเป็นหลุมเป็นบ่อมากมาย ตลอดสายอย่างที่เห็นแบบนี้
หน้าฝนน้ำขังหน้าแล้งฝุ่นคลุ้ง

ทั้งนี้ อยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องลงมาดูแล
เพื่อให้ชาวบ้านที่สัญจรไปมาได้รับความสะดวก
ซึ่งที่ผ่านมาองค์การบริหารส่วนจังหวัดก็ได้ลงมาซ่อมแซม
แต่ผ่านไปได้ไม่นานถนนก็พังอีก ซึ่งชาวบ้านอยากให้ อบต.
ลงมาดูแลจัดหางบประมาณมาซ่อมแซมถนนให้ประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อน

ด้าน นายโกศล คาดพันน รองนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดมหาสารคาม
กล่าวว่า เส้นทางถนนสายยางนุ้ย-บ้านห้วยม่วง อ.โกสุมพิัย จ.มหาสารคาม
สร้างมาตั้งแต พ.ศ.2538 ทางองค์การบริหารส่วนจังหวัดมหาสารคาม
ได้รับโอนจากทางหลวงชนบท ตามภาระกิจถ่ายโอนมาตั้งแต่ปี 2546
ซึ่งถนนสายดังกล่าวเคยถูกน้ำท่วมมาก่อน ส่ผลให้มีสภาพอย่างทีเห็น ซึ่งทาง
อบจ.ได้รับโอนถนนทั้งจังหวัดจำนน 84 สาย ระยะทางกว่า 700 กิโลมตร

อย่างไรก็ตาม ต้องยอมรับว่าทาง อบจ.มีงบประมาณจำกัด
แต่ในข้อบัญญัติงบปะมาณประจำปี 2552 ทาง
อบจ.ได้อนุมัติงบในการซ่อมแซมถนนสายดังกล่าวไว้แล้วจำนวน 1 ล้านบาท
ซึ่งจะสามารถช่วยบรรเทาความเดือดร้อนให้กับชาวบ้านได้ส่วนหนึ่ง

วันอังคารที่ 2 มิถุนายน พ.ศ. 2552

มหาสารคามเตือนประชาชนระวังโรคไข้เลือดออก

from MOPH-ข่าวภูมิภาค by สำนักสารนิเทศ
มหาสารคาม เตือนประชาชนระวังโรคไข้เลือดออก โรคพยาบาลจังหวัดมหาสารคาม
เตือนประชาชนระวังโรคไข้เลือดออก
ที่มีสาเหตุมาจากยุงลายที่มีเชื้อไข้เลือดออกกัดเด็กในเวลากลางวัน
และสภาพอากาศที่เอื้ออำนวยต่อการเกิดโรคไข้เลือดออก มีน้ำขัง
เป็นแหล่งเพาะพันธ์ยุงลายที่ดี แพทย์หญิงเสาวลักษณ์ นาคะพงษ์
ผู้อำนวยการโรงพยาบาลจังหวัดมหาสารคาม
กล่าวว่าปัจจุบันสภาพย่างเข้าสู่ฤดูฝน
ประชาชนส่วนใหญ่ไม่ปิดฝาภาชนะใส่น้ำดื่ม น้ำใช้
ทำให้เป็นแหล่งเพาะพันธ์ยุงลายที่ดี
จังหวัดมหาสารคามพบผู้ป่วยโรคไข้เลือดออกจำนวน 29 ราย ผู้ป่วย 3 ลำดับแรก
ได้แก่ อำเภอเมืองจำนวน 14 ราย อำเภอพยัคฆภูมิพิสัยจำนวน 6 ราย
เพื่อเป็นการป้องกันโรคไข้เลือดออก ประชาชนจะต้องปิดฝาภาชนะใส่น้ำ 2 ชั้น
ขัดล้างภาชนะใส่น้ำทุก 7 วัน จัดสภาพแวดล้อมบ้านเรือนให้สะอาด เรียบร้อย
เป็นระเบียบ ทำลายขยะและเศษวัสดุที่สามารถขังน้ำได้โดยการ เผา ฝัง
ปล่อยปลากินลูกน้ำ ใส่ทรายอะเบทเพื่อฆ่าลูกน้ำยุงลาย
กางมุ้งให้เด็กตัวเล็ก ไม่ให้เด็กเล่นในที่มืด
ในขณะเด็กดูทีวีจะต้องจุดยากันยุง เปิดพัดลมให้
อาการของผู้ป่วยโรคไข้เลือดออกจะมีไข้สูง ปวดศีรษะ อ่อนเพลีย ซึม หน้าแดง
ตัวแดง ปวดท้อง หากมีอาการดังกล่าวจะต้องรีบพาเด็กไปพบแพทย์เพื่อการรักษาที่ถูกต้อง
ผู้อำนวยการโรงพยาบาลจังหวัดมหาสารคาม ขอความร่วมมือประชาชนทุกครอบครัว
สถานที่ราชการ และสถานศึกษาทุกแห่ง จะต้องทำความสะอาดบริเวณโรงเรียน
บริเวณบ้าน ทุก 7 วัน กำจัดเศษวัสดุ กระป๋อง กะลา
ยางรถยนต์ที่สามารถขังน้ำได้ ขัดล้างภาชนะใส่น้ำทุก 7 วัน
ปิดฝาภาชนะใส่น้ำดื่ม น้ำใช้ 2 ชั้น ปล่อยปลากินลูกน้ำ
และใส่ทรายอะเบทเพื่อฆ่าลูกน้ำยุงลาย ใช้หลักการ 4 ป คือ
ปิดฝาภาชนะใส่น้ำ 2 ชั้น ปล่อยปลากินลูกน้ำ ปรับปรุงสภาพแวดล้อมให้สะอาด
เปลี่ยนน้ำทุก 7 วัน หากบุตรหลานมีไข้สูง ซึม อ่อนเพลีย อาเจียน
เบื่ออาหาร หน้าแดง และมีผิวหนังแดง ให้ดื่มน้ำมากๆ เช็ดตัวเพื่อลูกไข้
และรีบพบแพทย์เพื่อการรักษาที่ถูกต้อง
ปัจจุบันเด็กและผู้ใหญ่สามารถป่วยเป็นโรคไข้เลือดออกได้
ฉะนั้นจะต้องให้ความร่วมมือในการทำลายแหล่งเพาะพันธ์ยุงลายเป็นการตัดไฟต้น
ลม "ไม่มีลูกน้ำ ไม่มียุงลาย ไม่มีไข้เลือดออก"
ด้วยความปรารถนาดีโรงพยาบาลมหาสารคาม อรณต วัฒนะ ข่าว / พิมพ์ 2 มิถุนายน
2552

วันจันทร์ที่ 1 มิถุนายน พ.ศ. 2552

สาธารณสุขมหาสารคามเตือนระวังโรคพิษสุนัขบ้า

from MOPH-ข่าวภูมิภาค by สำนักสารนิเทศ
สาธารณ สุขมหาสารคามเตือนระวังโรคพิษสุนัขบ้า โรงพยาบาลจังหวัดมหาสารคาม
เตือนประชาชนระวังโรคพิษสุนัขบ้า ซึ่งมักระบาดในช่วงฤดูร้อน
ส่วนใหญ่เกิดกับสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม
เป็นสัตว์เลี้ยงที่อยู่ใกล้ชิดกับคนและเลี้ยงไว้ในครอบครัว เช่น แมว
สุนัข เป็นต้น แพทย์หญิงเสาวลักษณ์ นาคะพงษ์
ผู้อำนวยการโรงพยาบาลจังหวัดมหาสารคามกล่าวว่าย่างเข้าฤดูร้อนของทุกปี
โรคติดต่อจากสัตว์สู่คนที่จะต้องระวังอีกโรคหนึ่งคือโรคพิษสุนัขบ้า
เกิดจากเชื้อไวรัส
ดังนั้นเพื่อเป็นการป้องกันล่วงหน้าคือนำสัตว์เลี้ยงไปฉีดวัคซีนป้องกันโรค
พิษสุนัขบ้าอย่างน้อยปีละ 1 ครั้ง สัตว์เลี้ยงอายุตั้งแต่ 3
เดือนจะต้องได้ฉีดวัคซีนเข็มแรก อาการของสัตว์ที่ป่วยเป็นโรคพิษสุนัขบ้า
น้ำลายไหล ซึม เบื่ออาหาร คอแข็ง วิ่งพล่าน โมโหร้าย วิ่งกัดคนไม่เลือก
ห้ามพบเห็นไม่ควรเข้าใกล้ และแจ้งที่เจ้าหน้าที่เทศบาลในพื้นที่นั้นๆ
เพื่อกำจัดสัตว์ที่มีอาการโรคพิษสุนัขบ้า
เมื่อคนโดนสุนัขกัดจะต้องล้างแผลให้สะอาดด้วยน้ำสบู่หลายๆครั้ง
ไม่ควรบีบเลือดออกจากแผล เมื่อล้างแผลให้สะอาด เช็ดแผลให้แห้ง
แล้วใส่ยาแผลสด กักขังสุนัขไว้ในกรง ให้น้ำให้อาหารตามปกติ ภายในวัน 10
วันสุนัขไม่มีอาการใดๆ แข็งแรง และกินอาหารได้ตามปกติ
ก็มั่นใจได้ว่าปลอดภัยจากโรคพิษสุนัขบ้า
หากสุนัขตายจะต้องรีบแจ้งให้ปศุสัตว์จังหวัดตรวจสอบสวนโรคทันที่
และรีบนำคนที่ถูกสุนัขกัดพบแพทย์เพื่อรับการรักษาที่ถูกต้อง
ผู้อำนวยการโรงพยาบาลจังหวัดมหาสารคามขอความร่วมมือประชาชนที่มีสุนัข
แมวไว้ในครอบครอง จะต้องนำไปฉีดวัคซีนป้องกันโรคพิษสุนัขบ้าทุกปี
บอกลูกหลานอยากเล่นกับสุนัขจอนจัด ไม่มีเจ้าของ
ไม่ควรให้สัตว์เลี้ยงเลียมือ ปาก หน้า
และจะต้องล้างมือทุกครั้งเมื่อสัมผัสหรือเล่นกับสุนัข แมว
ล้างมือก่อนรับประทานอาหารและหยิบอาหารเข้าปากทุกครั้ง
หากสุนัขและแมวที่เลี้ยง
ไว้มีอาการผิดปกติจะต้องรีบพาไปตรวจกับปศุสัตว์จังหวัด
ลูกหลานท่านจะปลอดภัยจากโรคพิษสุนัขบ้า " รักลูกหลาน รักสัตว์เลี้ยง
ต้องพาสัตว์ไปฉีดวัคซีนทุกปี" ปัจจุบันไม่มียารักษาโรคพิษสุนัขบ้า
อย่านิ่งนอนใจเมื่อสุนัขกัดจะต้องพบแพทย์ทันที่ อรณต วัฒนะ ข่าว / พิมพ์
31 พฤษภาคม 2552

วันเสาร์ที่ 30 พฤษภาคม พ.ศ. 2552

มหาสารคามรณรงค์ตรวจร่างกายฟรีสำหรับหัวหน้าส่วนราชการเพื่อสุขภาพแข็งแรง

from MOPH-ข่าวภูมิภาค by สำนักสารนิเทศ
มหาสารคาม รณรงค์ตรวจร่างกายฟรีสำหรับหัวหน้าส่วนราชการเพื่อสุขภาพแข็งแรง
โรงพยาบาลมหาสารคามจัดหน่วยเคลื่อนที่ออกให้บริการตรวจร่างกายฟรีสำหรับหัว
หน้าส่วนราชการและส่วนราชการที่สังกัดผู้ว่าราชการจังหวัดมหาสารคามกว่า
50 หน่วยงาน เพื่อส่งเสริมให้คนมหาสารคามไร้พุงและมีสุขภาพแข็งแรง
แพทย์หญิงเสาวลักษณ์ นาคะพงษ์
ผู้อำนวยการโรงพยาบาลมหาสารคามเกล่าวว่าจังหวัดมหาสารคามมีนโยบายส่งเสริม
ให้บุคลากรในหน่วยงานทุกหน่วยงานมีการวัดรอบเอวปีละ 2 ครั้ง
มีการออกกำลังกายอย่างสมำเสมอ มีการจัดการด้านอารมณ์
และเลือกรับประทานอาหารที่สมส่วน ลดอาหารหวาน มัน และเค็ม
โดยมีการรณรงค์ให้คนมหาสารคามไร้พุงเพื่อสุขภาพแข็งแรงในกลุ่มประชาชนที่มี
อายุ 15 ปีขึ้นไปมีความรู้เรื่องการดูแลสุขภาพและได้รับการวัดรอบเอวปีละ
2 ครั้ง และในปี 2552 กรมอนามัย
กระทรวงสาธารณสุขมีเกณฑ์ชี้วัดหัวหน้าหน่วยราชการในศาลากลางจังหวัด
มหาสารคามทุกคนได้วัดรอบเอวปีละ 2 ครั้ง
มีการออกกำลังกายที่พอเพียงอย่างน้อยวันละ 30 นาที สัปดาห์ละ 3 วัน
และการควบคุมอารมณ์ให้ปรับตัวเข้ากับสภาพปัจจุบันได้ มีเหตุ มีผล
โรงพยาบาลมหาสารคามจึงจัดหน่วยเลื่อนที่ออกตรวจสุขภาพที่สำนักงานอุตสาหกรรม
โยธาจังหวัด เกษตรจังหวัด ทรัพยากรและสิ่งแวดล้อมจังหวัด แรงงาน
ประกันภัย พาณิชย์ และการค้าภายในจังหวัด
เพื่อให้บุคลากรในหน่วยงานมีการลดพุงได้อย่างจริงจัง
สำหรับรอบเอวที่ได้มาตรฐานผู้หญิงไม่เกิน 80 เซนติเมตร ผู้ชายไมเกิน 90
เซนติเมตร ผู้ที่มีรอบเอวเกินจะต้องรับประทานอาหารให้เหมาะสม ลดอาหารหวาน
มัน เค็ม และอาหารประเภทแป้ง รับประทานพืชผัก ผลไม้ที่ไม่หวานตามฤดูกาล
และดื่มน้ำสะอาดอย่างน้อยวันละ 8 แก้ว
ผู้อำนวยการโรงพยาบาลมหาสารคามย้ำการรักษา สุขภาพให้ร่างกายแข็งแรง
สมบูรณ์จะต้องออกกำลังกายอย่างต่อเนื่อง
จะต้องบริโภคอาหารที่ถูกสุขลักษณะ รักษาอารมณ์ให้มีเหตุ มีผล ไม่เครียด
ไม่โกธร ไม่เกลียด รักษาอนามัยชุมชนให้ดี ลด ละ เลิกอบายมุข และ
อโรคยาจะช่วยลดให้เกิดโรคเรื้อรังได้ อรณต วัฒนะ ข่าว / พิมพ์ 29 พฤษภาคม
2552

มหาสารคามรณรงค์ให้ทุกครัวเรือนบริโภคเกลือไอโอดีนเพื่อป้องกันโรคคอพอก

from MOPH-ข่าวภูมิภาค by สำนักสารนิเทศ
มหาสารคาม รณรงค์ให้ทุกครัวเรือนบริโภคเกลือไอโอดีนเพื่อป้องกันโรคคอพอก
โรงพยาบาลมหาสารคามรณรงค์ให้ทุกครัวเรือนโดยเฉพาะหญิงตั้งครรภ์และเด็กที่
อยู่ในวัยกำลังเจริญเติบโตบริโภคเกลือไอโอดีนเพื่อเสริมสร้างสติปัญญาและทำ
ให้ร่างกายเจริญเติบโตสมวัยไม่เป็นโรคคอพอก แพทย์หญิงเสาวลักษณ์ นาคะพงษ์
ผู้อำนวยการโรงพยาบาลจังหวัดมหาสารคามกล่าวว่า วันที่ 25 มิถุนายน
ของทุกปีเป็นวันไอโอดีนแห่งชาติ
โรงพยาบาลจังหวัดมหาสารคามขอความร่วมมือให้ประชาชนทุกคัวเรือนบริโภคเกลือ
ไอโอดีน เพื่อเสริมสร้างร่างกายให้แข็งแรง สติปัญญาดีและเจริญเติบโตสมวัย
ไอโอดีนเป็นสารอาหารที่มีความสำคัญต่อร่างกายมีมากในอาหารทะเล
พืชผักใบเขียว น้ำปลา เกลือ อาหารสำเร็จรูปที่มีส่วนผสมสารไอโอดีน
โดยเฉพาะในหญิงตั้งครรภ์และเด็กวัยเจริญเติบโต
จะต้องบริโภคสารไอโอดีนทุกวันจึงจะทำให้เด็กเจริญเติบโต ความจำดี
ไม่เป็นโรคคอพอก
จากการสำรวจพบว่าในพื้นที่จังหวัดมหาสารคามประชาชนบริโภคเกลือเสริมไอโอดีน
น้อยทั้งๆที่เป็นพื้นที่ผลิตเกลือจำหน่ายทั่วประเทศ
ดังนั้นเพื่อการเสริมสร้างร่างกายให้แข็งแรงสมบูรณ์เจริญเติบโตสมวัย
ทุกครัวเรือนจะต้องใช้เกลือไอโอดีนในการประกอบอาหาร ทำปลาร้า
หมักดองต่างๆ เพื่อให้ร่างกายได้รับสารไอโอดีนที่เพียงพอไม่เป็นโรคเอ๋อ
หรือขาดสารไอโอดีน สติปัญญาไม่ดี
ผู้อำนวยการโรงพยาบาลจังหวัดมหาสารคามขอความร่วมมือให้ประชาชนทุกครัวเรือน
เห็นประโยชน์ความสำคัญของสารไอโอดีนที่มีต่อร่างกาย
และจะต้องบริโภคทุกวันโดยเฉพาะหญิงตั้งครรภ์จึงจะทำให้ร่างกายแข็งแรง
สมบูรณ์และอยู่ดีมีสุข อรณต วัฒนะ ข่าว / พิมพ์ 28 พฤษภาคม 2552

มหาสารคามขอเชิญประชาชนทุกคน ลด ละ เลิกบุหรี่เพื่อสุขภาพที่ดี

from MOPH-ข่าวภูมิภาค by สำนักสารนิเทศ
มหาสารคาม ขอเชิญประชาชนทุกคน ลด ละ เลิกบุหรี่เพื่อสุขภาพที่ดี
จังหวัดมหาสารคาม ขอเชิญชวนเครือข่ายพันธมิตรสร้างสุขภาพจังหวัดมหาสารคาม
ลด ละ เลิกบุหรี่เนื่องในวันงดสูบบุหรี่โลก 31 พฤษภาคม 2552
นางสาวเสาวลักษณ์ นาคะพงษ์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลจังหวัดมหาสารคามกล่าวว่า
รัฐบาลมีนโยบายให้ประชาชนทุกคนมีการสร้างสุขภาพ โดยใช้กลยุทธ์ 6 อ คือ
อาหาร ออกกำลังกาย อารมณ์ อนามัยชุมชน อโรคยา และอบายมุข
เพื่อสร้างเสริมสุขภาพให้แข็ง และในวันที่ 31 พฤษภาคม 2552
เป็นวันงดสูบบุหรี่โลก ขอเชิญชวนประชาชนร่วมรณรงค์ที่ว่า " เยาวชนไทย
ร่วมใจ ต้านภัยบุหรี่ " โรงพยาบาลมหาสารคามขอความร่วมมือ ประชาชน
นักเรียน นิสิต นักศึกษา พ่อค้า และข้าราชการทุกคน
มีความรู้เรื่องพิษภัยบุหรี่ ที่มีผลต่อสุขภาพร่างกาย มีอาการระคายเคือง
ไอ มีเสมหะ หายใจลำบาก หายใจขัด
สำหรับหญิงตั้งครรภ์เป็นสาเหตุของโรคไหลตายในทารก เด็กตัวเล็ก
ระบบหายใจมีปัญหา เด็กมีโอกาสติดเชื้อในหูสูง มีอาการหอบหืด
และแม่มีโอกาสเสี่ยงต่อการเกิดโรคความดันโลหิตสูง
ผู้อำนวยการโรงพยาบาลจังหวัดมหาสารคามแนะการป้องกันตนเองจากควันบุหรี่มือ
สองคือ ทำบ้านและรถยนต์ส่วนตัวปลอดบุหรี่ อย่าเข้าใกล้คนสูบบุหรี่
ไม่เข้าไปในร้านอาหารที่ไม่จัดเขตปลอดบุหรี่ ตรวจสุขภาพร่างกายปีละ 1
ครั้ง หากมีอาการไอเรื้อรัง ไม่ทราบสาเหตุ ไม่ควรซื้อยารับประทานเอง
ควรรีบพบแพทย์เพื่อรับการรักษาที่ถูกต้อง
สำหรับผู้ที่สูบบุหรี่จะต้องตรวจสุขภาพประจำปีอย่างน้อยปีละ 1
ครั้งและจะต้องเอ็กเรย์ปอดเพื่อตรวจคัดกรองเบื้องต้น อรณต วัฒนะ ข่าว /
พิมพ์ 27 พฤษภาคม 2552

มหาสารคามพัฒนาศักยภาพผู้ดูแลผู้สูงอายุชุมชนโพธิ์ศรีเพื่อสุขภาพแข็งแรง

from MOPH-ข่าวภูมิภาค by สำนักสารนิเทศ
มหาสารคาม พัฒนาศักยภาพผู้ดูแลผู้สูงอายุชุมชนโพธิ์ศรีเพื่อสุขภาพแข็งแรง
เทศบาลเมืองมหาสารคามร่วมกับโรงพยาบาลมหาสารคาม
วิทยาลัยพยาบาลศรีมหาสารคามและสำนักงานคณะกรรมการวิจัยแห่งชาติจัดอบรมพัฒนา
ศักยภาพผู้ดูแลผู้สูงอายุชุมชนโพธิ์ศรี 1 และ 2 ณ ศาลาวัดโพธิ์ศรี
อำเภอเมือง จังหวัดมหาสารคาม ให้สามารถดูแลผู้สูงอายุในเรื่องอาหาร
การออกกำลังกาย และอารมณ์ส่งผลให้ร่างกายแข็งแรง
สุขภาพสมบูรณ์และอยู่ดีมีสุขอย่างยั้งยืน นายแพทย์กิตติศักดิ์
คณาสวัสดิ์นายกเทศมนตรีเมืองมหาสารคามเป็นประธานในพิธีเปิดอบรมพัฒนาศักยภาพ
ผู้ดูแลผู้สูงอายุชุมชนโพธ์ศรี 1และ 2 ณ ศาลาวัดโพธิ์ศรี อำเภอเมือง
จังหวัดมหาสารคาม หลักสูตรรุ่นๆละ 1 วัน ในวันที่ 30 และ 31 พฤษภาคม 2552
เวลา 09.00 น ตามหัวข้อคือคุณค่าผู้สูงอายุ
ร่างกายและความเสื่อมสภาพตามสังขารของผู้สูงอายุวิทยากรโดย อาจารย์ปราณี
คำศิริรักษ์ รู้และเข้าใจโรคผู้สูงอายุ การป้องกันภาวะแทรกซ้อนผู้สูงอายุ
ด้วยการรับประทานอาหาร วิทยากรโดย ดร. จิราพร วรวงศ์
การปรับและควบคุมอารมณ์โดย อาจารย์จุฬาลักษณ์ ช่ำชอง
และการออกกำลังกายวิทยากรโดยอาจารย์อรวรรณ
กองทุ่งมนนักกายบำบัดจากโรงพยาบาลมหาสารคาม
พร้อมแจกเอกสารคู่มือการดูแลสุขภาพผู้สูงอายุพักรับประทานอาหาร
การดูแลเท้าผู้สูงอายุโรคเบาหวาน ด้วยมะกรูด สมุนไพรใกล้ตัววิทยากรโดย
อาจารย์ชุติกาญน์ ปิยะศิลป์ จากสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดมหาสารคาม สรุป
และอภิปรายผลจากการประชุมโดยอาจารย์อรณต วัฒนะ
นักวิชาการสาธารณสุขชำนาญการพิเศษ กลุ่มงานสุขศึกษาโรงพยาบาลมหาสารคาม
ซึ่งได้รับงบประมาณสนับสนุนการดูแลพัฒนาศักยภาพผู้สูงอายุจากสำนักงานคณะ
กรรมการวิจัยแห่งชาติประจำปี 2552
นายกเทศมนตรีเมืองมหาสารคามขอให้กำลังใจผู้ดูแลผู้สูงอายุทุกคนต้องเอาใจใส่
บิดา มารดา ให้ความรัก ความอบอุ่น
และนำความรู้ต่างๆจากการเข้าร่วมกิจกรรมไปใช้ในการดูแลผู้สูงอายุด้วยการ
เลือกรับประทานอาหารให้ดีมีประโยชน์ต่อร่างกาย พักผ่อนให้เพียงพอ
ส่งเสริมการออกกำลังกายทุกวันอย่างน้อยวันละ 30 นาที
รักษาอารมณ์ให้อยู่ในยุคปัจจุบันได้อย่างมีความสุข มีเหตุมีผล
ทำจิตใจให้สบายไม่เก็บปัญหาไว้คนเดียว ตรวจสุขภาพประจำปีทุกปี
มีปัญหาด้านสุขภาพขอรับบริการได้ที่คลินิกชุมชนอุทัยทิศ สามัคคี
บูรพาและโรงพยาบาลมหาสารคาม อรณต วัฒนะ ข่าว / พิมพ์ 26 พฤษภาคม 2552

มหาสารคามส่งเสริมให้บุคลากรปฏิบัติธรรมเพื่อคุณภาพชีวิตดี

from MOPH-ข่าวภูมิภาค by สำนักสารนิเทศ
มหาสารคาม ส่งเสริมให้บุคลากรปฏิบัติธรรมเพื่อคุณภาพชีวิตดี
โรงพยาบาลมหาสารคามได้รณรงค์ส่งเสริมให้บุคลากรทุกระดับปฏิบัติธรรม
เพื่อมีคุณธรรม จริยธรรม และศีลธรรมทีดีงาม
สามารถนำมาปรับใช้ในชีวิตประจำวันให้อยู่ดีมีสุขอย่างยั่งยืน
แพทย์หญิงเสาวลักษณ์ นาคะพงษ์ ผู้อำนวยการ
โรงพยาบาลจังหวัดมหาสารคามกล่าวว่าปัจจุบันประชาชนมีความเร่งรีบเกิดความ
เห็นแก่ตัว มีความเครียดและหาทางออกไม่ถูกต้อง
โรงพยาบาลมหาสารคามแก้ไขปัญหาดังกล่าวโดยจัดให้บุคลากรทุกระดับได้ไปปฏิบัติ
ธรรมรุ่นที่ 10 จำนวน 33 คน หลักสูตร 5 วัน ระหว่างวันที่ 25 - 29
พฤษภาคม 2552 ณ ศูนย์ปฏิบัติธรรมวัดเวฬุวัน
จังหวัดขอนแก่นโดยไม่ถือเป็นวันลา
ซึ่งคัดเลือกจากเจ้าหน้าที่ผู้สนใจสมัครเข้ารับการฝึกปฏิบัติธรรม
และนำมาใช้ในการดำรงชีวิตในยุคปัจจุบันได้อย่างมีความสุข
ผู้ที่ผ่านการฝึกปฏิบัติธรรมจะมีแนวทางที่ถูกต้อง
สามารถนำมาฝึกต่อที่บ้าน ที่ทำงานทำให้จิตใจดี มีสมาธิ
ช่วยให้เกิดปัญญาและแก้ไขปัญหาได้ทุกๆเรื่อง เป็นคนมีเหตุ มีผล
ไม่ใช้อารมณ์ในการตัดสินปัญหา
นอกจากนี้การฝึกสมาธิยังช่วยลดโรคร้ายต่างๆเช่น มะเร็งทุกชนิด
โรคความดันโลหิตสูง โรคเรื้อรังต่างๆ
ทำให้คนเราใช้ชีวิตไม่ประมาทและปรับตัวอยู่ในปัจจุบันได้อย่างมีความสุข
ผู้อำนวยการโรงพยาบาลจังหวัดมหาสารคามกล่าวต่อไปว่าการรณรงค์ส่งเสริมเรื่อง
คุณธรรม จริยธรรม ศีลธรรมเป็นสิ่งที่ดีที่หน่วยงานจะต้องทำอย่างต่อเนื่อง
โดยเฉพาะหน่วยงานที่ให้บริการแก่ประชาชน เพื่อสร้างความรู้ ความเข้าใจ
ให้ นักเรียน นิสิต นักศึกษา
ประชาชนและบุคลลากรด้านสาธารณสุขทุกคนมีศีลธรรม จริยธรรม
และคุณธรรมทีดีเพื่อสังคมอยู่ดีมีสุขอย่างยั่งยืน อรณต วัฒนะ ข่าว /
พิมพ์ 25 พฤษภาคม 2552

วันพฤหัสบดีที่ 28 พฤษภาคม พ.ศ. 2552

ไข้เลือดออกมหาสารคามน่าห่วง

โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 27 พฤษภาคม 2552 11:47 น.
มหาสารคาม -
สถานการณ์โรคไข้เลือดออกในจังหวัดมหาสารคามมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้น
เนื่องจากสภาพอากาศที่เอื้ออำนวย
ด้านโรงพยาบาลเตือนเด็กเล็กมีโอกาสเสียชีวิตสูง

น.ส.เสาวลักษณ์ นาคะพงษ์ ผู้อำนวยการโรคพยาบาลมหาสารคาม กล่าวว่า
ในพื้นที่จังหวัดมหาสารคาม พบผู้ป่วยโรคไข้เลือดออกแล้วจำนวน 21 ราย
คิดเป็นอัตราป่วย 2.19 ต่อแสนประชากร ผู้ป่วย 3 ลำดับแรกได้แก่
อำเภอเมืองจำนวน 12 ราย อัตราป่วย 8.32 ต่อแสนประชากร
อำเภอพยัคฆภูมิพิสัยจำนวน 3 ราย คิดเป็นอัตราป่วย 3.35 ต่อแสนประชากร
และอำเภอแกดำ จำนวน 1 รายคิดเป็นอัตราป่วย 3.31 ต่อแสนประชากร
ผู้ป่วยโรคไข้เลือดออกมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้น
เนื่องจากสภาพอากาศที่เอื้ออำนวยต่อการแพร่พันธุ์ของยุงลาย

ดังนั้นจึงขอความร่วมมือสถานศึกษาและชุมชนทุกแห่ง ให้เด็กนักเรียน
และพี่น้องประชาชนทุกคนช่วยกันกำจัดแหล่งเพาะพันธุ์ลูกน้ำยุงลายทุกวันศุกร์
ของสัปดาห์ เพื่อตัดวงจรชีวิตของยุงลาย
หากชุมชนหรือสถานศึกษาใดพบผู้ป่วยมีไข้สูง เกิน 2 วัน
ต้องนำตัวไปตรวจรักษากับแพทย์ให้ถูกต้อง หากป่วย 3-4
วันมีโอกาสช็อกเสียชีวิตได้

เด็กเล็กอายุไม่เกิน 2 ปี มีโอกาสที่จะเสียชีวิตสูงมาก
ทุกคนจึงไม่ควรประมาท โรคไข้เลือดออกสามารถเกิดขึ้นได้ทั้งเด็กและผู้ใหญ่
พร้อมให้ความร่วมมือกำจัดแหล่งเพาะพันธุ์ยุงลายให้เป็นชุมชนปลอดเชื้อไข้
เลือดออกอย่างยั่งยืนต่อไป

วันอาทิตย์ที่ 24 พฤษภาคม พ.ศ. 2552

มหาสารคามชวนเชิญปฏิบัติสุขบัญญัติเพื่อสุขภาพที่ดี

from MOPH-ข่าวภูมิภาค by สำนักสารนิเทศ


มหาสารคาม ชวนเชิญปฏิบัติสุขบัญญัติเพื่อสุขภาพที่ดี
สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดมหาสารคาม ขอเชิญชวนนักเรียน นิสิต นักศึกษา
ประชาชน และ ข้าราชการทุกคนปฏิบัติตามสุขบัญญัติแห่งชาติเนนื่อในวันสุขบัญญัติแห่งชาติ
เพราะสุขบัญญัติเป็นพฤติกรรมพื้นฐานที่คนไทยทุกเพศ ทุกวัยจะต้องปฏิบัติ
แพทย์หญิงเสาวลักษณ์ นาคะพงษ์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลมหาสารคามกล่าวว่า
รัฐบาลมีนโยบายให้ประชาชนทุกคนมีการสร้างสุขภาพ โดยใชกลยุทธ์ 6 อ คือ
อาหาร ออกกำลังกาย อารมณ์ อนามัยชุมชน อโรคยา และอบายมุข
เพื่อสร้างเสริมสุขภาพให้แข็งแรง
โดยมีข้อปฏิบัติตามหลักสุขบัญญัติแห่งชาติ 10 ประการดังนี้คือ
1. การรักษาร่างกายให้สะอาด
2 แปรงฟันให้ถูกวิธี
3.รับประทานอาหารสุก สะอาด ปราศจากสารปนเปื้อน
4.ล้างมือให้สะอาดก่อนรับประทานอาหาร และหลังขับถ่ายทุกครั้ง
5.ไม่สำส่อนทางเพศ
6.สร้างความสัมพันธ์ในครอบครัวให้อบอุ่น
7. ออกกำลังกายอย่างสมำเสมอ
9. ตรวจสุขภาพประจำปี และ
10. มีส่วนร่วมในการสร้างสรรค์สังคม

สำนักงานสาธารณสุขขอความร่วมมือให้ประชาชนทุกคนปฏิบัติเพื่อการมีสุขภาพทีดี
ตลอดไป ผู้อำนวยการโรงพยาบาลมหาสารคามกล่าวต่อไปว่า ในวันที่ 28 พฤษภาคม
2552 เป็นวันสุขบัญญัติแห่งชาติ ขอเชิญชวน นักเรียน นิสิต นักศึกษา
พ่อค้า ประชาชน และข้าราชการทุกคนปฏิบัติตามสุขบัญญัติแห่งชาติ 10ประการ
เนื่องในวันสุขบัญญัติแห่งชาติเพราะสุขบัญญัติเป็นพฤติกรรมพื้นฐานที่คนไทย
ทุกเพศ ทุกวัยจะต้องปฏิบัติ เพื่อสุขภาพร่างกายแข็งแรง สมบูรณ์
และอยู่ดีมีสุข อรณต วัฒนะ ข่าว / พิมพ์ 24 พฤษภาคม 2552

วันเสาร์ที่ 23 พฤษภาคม พ.ศ. 2552

มหาสารคามพัฒนาศักยภาพผู้ดูแลผู้สูงอายุชุมชนโพธิ์ศรีเพื่อสุขภาพแข็งแรง

from MOPH-ข่าวภูมิภาค by สำนักสารนิเทศ
มหาสารคาม พัฒนาศักยภาพผู้ดูแลผู้สูงอายุชุมชนโพธิ์ศรีเพื่อสุขภาพแข็งแรง
เทศบาลเมืองมหาสารคามร่วมกับโรงพยาบาลมหาสารคามและวิทยาลัยพยาบาลศรี
มหาสารคามจัดอบรมพัฒนาศักยภาพผู้ดูแลผู้สูงอายุชุมชนโพธิ์ศรี 1 และ 2 ณ
ศาลาวัดโพธิ์ศรี อำเภอเมือง จังหวัดมหาสารคาม
ให้สามารถดูแลผู้สูงอายุในเรื่องอาหาร การออกกำลังกาย
และอารมณ์ส่งผลให้ร่างกายแข็งแรง
สุขภาพสมบูรณ์และอยู่ดีมีสุขอย่างยั้งยืน นายแพทย์กิตติศักดิ์
คณาสวัสดิ์นายกเทศมนตรีเมืองมหาสารคามเป็นประธานในพิธีเปิดอบรมพัฒนาศักยภาพ
ผู้ดูแลผู้สูงอายุชุมชนโพธ์ศรี 1และ 2 ณ ศาลาวัดโพธิ์ศรี อำเภอเมือง
จังหวัดมหาสารคาม หลักสูตรรุ่นๆละ 1 วัน ในวันที่ 30 และ 31 พฤษภาคม 2552
เวลา 09.00 น ตามหัวข้อคือคุณค่าผู้สูงอายุ
ร่างกายและความเสื่อมสภาพตามสังขารของผู้สูงอายุวิทยากรโดย อาจารย์ปราณี
คำศิริรักษ์ รู้และเข้าใจโรคผู้สูงอายุ การป้องกันภาวะแทรกซ้อนผู้สูงอายุ
ด้วยการรับประทานอาหาร วิทยากรโดย ดร. จิราพร วรวงศ์
การปรับและควบคุมอารมณ์ อาจารย์จุฬาลักษณ์ ช่ำชอง
และการออกกำลังกายวิทยากรโดย อาจารย์อรวรรณ กองทุ่งมน
นักกายภาพบำบัดจากโรงพยาบาลมหาสารคาม
พร้อมแจกเอกสารคู่มือการดูแลสุขภาพผู้สูงอายุพักรับประทานอาหาร
การดูแลเท้าผู้สูงอายุโรคเบาหวาน ด้วยมะกรูด สมุนไพรใกล้ตัววิทยากรโดย
อาจารย์ชุติกาญน์ ปิยศิลป์ผู้รับผิดชอบงานแพทย์แผนไทยสำนักงานสาธารณสุข
สรุป และอภิปรายผลจากการประชุมโดยอาจารย์อรณต วัฒนะ
นักวิชาการสาธารณสุขชำนาญการพิเศษ กลุ่มงานสุขศึกษาโรงพยาบาลมหาสารคาม
ซึ่งได้รับงบประมาณสนับสนุนการดูแลพัฒนาศักยภาพผู้สูงอายุจากสำนักงานคณะ
กรรมการวิจัยแห่งชาติประจำปี 2552
นายกเทศมนตรีเมืองมหาสารคามขอให้กำลังใจผู้ดูแลผู้สูงอายุทุกคนต้องเอาใจใส่
บิดา มารดา ให้ความรัก ความอบอุ่น
และนำความรู้ต่างๆจากการเข้าร่วมกิจกรรมไปใช้ในการดูแลผู้สูงอายุด้วยการ
เลือกรับประทานอาหารให้ดีมีประโยชน์ต่อร่างกาย พักผ่อนให้เพียงพอ
ส่งเสริมการออกกำลังกายทุกวันอย่างน้อยวันละ 30 นาที
รักษาอารมณ์ให้อยู่ในยุคปัจจุบันได้อย่างมีความสุข มีเหตุมีผล
ทำจิตใจให้สบายไม่เก็บปัญหาไว้คนเดียว ตรวจสุขภาพประจำปีทุกปี
มีปัญหาด้านสุขภาพขอรับบริการได้ที่คลินิกชุมชนอุทัยทิศ สามัคคี
บูรพาและโรงพยาบาลมหาสารคาม อรณต วัฒนะ ข่าว / พิมพ์ 18 พฤษภาคม 2552

มหาสารคามแนะนำกินอาหารมีประโยชน์ปลอดภัยจากโรคหัวใจ

from MOPH-ข่าวภูมิภาค by สำนักสารนิเทศ
มหาสารคาม แนะนำกินอาหารมีประโยชน์ปลอดภัยจากโรคหัวใจ
ผู้อำนวยการโรงพยาบาลจังหวัดมหาสารคาม แนะนำนักเรียน นักศึกษา
และประชาชนทุกคนจะต้องรับประทานอาหารให้ถูกต้องตามหลักโภชนาการเพื่อป้องกัน
โรคหัวใจ แพทย์หญิงเสาวลักษณ์ นาคะพงษ์
ผู้อำนวยการโรงพยาบาลจังหวัดมหาสารคาม กล่าวว่า ปัจจุบันโรคหัวใจ
และหลอดเลือด เป็นปัญหาสาธารณสุขที่มีอัตราการป่วยเพิ่มมากขึ้น
เป็นสาเหตุการตายอันดับต้น ๆ ของคนไทย
ทั้งนี้เนื่องมาจากการเปลี่ยนแปลงวิถีชีวิต
และพฤติกรรมการบริโภคอาหารที่ไม่ถูกหลักโภชนาการ กินอาหารประเภทไขมันสูง
ย่อยยาก อาหารประเภทแป้ง น้ำตาลมาก จะทำให้ระดับไขมันในเลือดสูง
ทำให้หลอดเลือดแดงแคบลง และเลือดไหลผ่านไม่สะดวก
สุดท้ายเมื่อหัวใจขาดเลือด จะมีอาการเจ็บหน้าอก
เจ็บหัวใจขณะออกแรงหรือมีอาการเครียด อาจทำให้เสียชีวิตอย่างกะทันหัน
นอกจากนี้ยังอาจทำให้เกิดโรคอ้วน โรคเบาหวาน โรคความดันโลหิตสูง
เป็นปัจจัยเสี่ยงที่เร่งให้เกิดโรคหลอดเลือดหัวใจตีบอย่างรุนแรง
การป้องกันควรรับประทานอาหารให้เหมาะสมกับเพศกับวัย
ออกกำลังกายอย่างต่อเนื่องอย่างน้อยสัปดาห์ละ 3 วัน วันละ 30 นาที
โดยให้หลักการง่าย ๆ 3 ป. คือ ประโยชน์ ประหยัด ปลอดภัย
และหลีกเลี่ยงการรับประทานอาหารหวานจัด เค็ม มัน เพิ่มการรับประทานผักสด
ผลไม้ อาหารที่มีกากใย และอาหารจากธรรมชาติ
ผู้อำนวยการโรงพยาบาลจังหวัดมหาสารคามย้ำประชาชนตั้งแต่ 35 ปี
ขึ้นไปควรตรวจสุขภาพอย่างน้อยปีละ 1 ครั้ง
รับประทานอาหารดีมีประโยชน์ต่อร่างกาย ไม่เครียด ไม่โกรธ
พักผ่อนให้เพียงพอ มีอาการผิดปกติ เช่น เจ็บหน้าอก หายใจไม่ออก
รีบปรึกษาแพทย์ทันที เพื่อความปลอดภัยจากโรคหัวและหลอดเลือด อรณต วัฒนะ
ข่าว / พิมพ์ 22 พฤษภาคม 2552

เตือนเปิบเห็ดพิษรักษาไม่ทันอันตรายถึงตาย

มหาสารคาม - ระยะนี้ฝนตกชุก ส่งผลให้มีเห็ดป่าตามธรรมชาติ
เริ่มเกิดขึ้นตามฝืนป่า ชาวบ้านเก็บขายสร้างรายได้งาม ขณะที่
ผอ.โรงพยาบาลมหาสารคามเตือนระวังเผลอกินเห็ดพิษ รักษาไม่ทันถึงตาย

ที่ถนนสายมหาสารคาม-วาปีปทุม พอเริ่มมีฝนตกชาวบ้านจะจับกลุ่ม 5-6
คน เข้าไปในป่าชุมชนโคกหินลาดตั้งแต่เช้ามืด
เพื่อหาเก็บเห็ดป่านานาชนิดออกไปวางขายริมถนนสายดังกล่าวเรียงรายอยู่ตามสอง
ข้างถนน เส้นทางสายนี้จึงเป็นที่รู้จักกันดีในนาม "ถนนสายเห็ด"
ที่แสดงถึงความอุดมสมบูรณ์ของผืนปาชุมชนโคกหินลาด
ซึ่งอยู่ห่างจากตัวเมืองมหาสารคามเพียงแค่ 12 กิโลเมตร
เป็นแหล่งผลิตเห็ดมูลค่า ปีละนับสิบล้านบาท

แต่ละวันหลังจากชาวบ้านเข้าป่าเก็บเห็ด
จะเริ่มวางเห็ดจำหน่ายในช่วงสายๆ โดยจะแยกเห็ดแต่ละชนิดออกเป็นกองๆ ละ
20-50 บาทตามชนิดเห็ดที่ได้รับความนิยม นอกจากนั้นยังมีกบ เขียด อึ่งอ่าง
ซึ่งถือเป็นอาหารพื้นบ้านของชาวอีสาน
และหาได้จากธรรมชาติในช่วงเข้าสู่ฤดูฝน ทำให้แต่ละคนมีรายได้วันละ
200-500 บาท

อย่างไรก็ตาม น.ส.เสาวลักษณ์ นาคพงษ์
ผู้อำนวยการโรงพยาบาลมหาสารคาม กล่าวว่า ในช่วงที่เห็ดป่าเริ่มออกสู่ตลาด
ผู้บริโภคควรระมัดระวังการบริโภคเห็ดป่าให้ดี
เนื่องจากเห็ดบางชนิดทำให้เกิดอาการทางจิตประสาท อาจทำให้พูดไม่ชัด
เดินเซ เป็นตะคริว กรณีได้รับพิษมากกจะเกิดอาการอาเจียน ท้องร่วง
ผิวหนังแดงและอุ่น หัวใจเต้นช้าถึงขั้นหมดสติ

นอก จากนี้ยังมีเห็ดบางชนิดถ้าเก็บผิดฤดูกาลหรือเก็บจากสภาพแวดล้อมที่ผิดปกติ
ในพื้นที่แห้งแล้งจัด พิษในเห็ดก็อาจจะเข้มข้นขึ้นกว่าเดิม
การรักษาเพื่อบรรทาพิษจากการบริโภคเห็ดพิษในเบื้องต้นคือทำให้อาเจียนออกมา
แล้วรีบนำส่งแพทย์ ทั้งนี้
ญาติหรือผู้ป่วยควรนำเห็ดพิษนั้นไปให้แพทย์ตรวจพิสูจน์ด้วย
เพื่อง่ายต่อการรักษาอาการ

วันพุธที่ 20 พฤษภาคม พ.ศ. 2552

ชาวบ้านร้อง อบต.ยาสีสุราชเบี้ยวจ่ายเบี้ยสูงอายุ - ผู้พิการบางราย 10 ปีไม่เห็นเงินช่วยเหลือแม้แต่บาทเดียว

โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 20 พฤษภาคม 2552 12:39 น.
มหาสารคาม - ชาว บ้านตำบลยาสีสุราช อำเภอยางสีสุราช จ.มหาสารคาม
ร้องเรียน อบต.ยางสีสุราช
ไม่จ่ายเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุและผู้พิการในตำบลกว่า 500 คน
ชาวบ้านบางคนพิการมา 10 ปี ยังไม่เคยรับเงินช่วยเหลือแม้แต่ครั้งเดียว
ด้านนายก อบต.ยางสีสุราช
อ้างเพิ่งได้รับหนังสือจากส่วนกลางให้สำรวจจำนวนผู้สูงอายุ
ก่อนดำเนินการแจกจ่ายเบี้ยยังชีพ

ตามที่รัฐบาลได้ประกาศให้มีการมอบเงินให้กับผู้สูงอายุ
ผู้ที่ไม่มีงานทำ ไม่มีผู้เลี้ยงดู
ไม่เป็นข้าราชการบำนาญลงทะเบียนขอรับเบี้ยยังชีพ 60 ปีขึ้น รายละ 500 บาท
โดยให้นำหลักฐาน สำเนาทะเบียนบ้านจำนวน 1 ชุด สำเนาบัตรประชาชน จำนวน 1
ชุด สำเนาบัตรคนพิการ จำนวน 1 ชุด จังหวัดมหาสารคาม โดยที่ตำบลยางสีสุราช
อ.ยางสีสุราช มียอดผู้มาลงทะเบียนรับเบี้ยผู้สูงอายุประมาณ 600 ราย

ผู้สื่อข่าวได้รับการร้องเรียนจากชาวบ้านว่า
ที่ผ่านมาชาวบ้านในตำบลกว่า 500 คนยังไม่เคยได้รับเบี้ยยังชีพ
หรือเบี้ยคนพิการเลย

นางพูนพิน ปิยฐา ตัวแทนผู้สูงอายุ บ้านโพธิ์ชัย ต.ยางสีสุราช
กล่าวว่า จากที่รัฐบาลมีนโยบายแจกเบี้ยยังชีพให้กับผู้สูงอายุรายละ 500
บาท ทำให้ประชาชนผู้สูงอายุได้รับความดีใจกันถ้วนหน้า
แต่ผ่านมาถึงวันนี้ยังไม่ได้รับเงิน ซึ่งก่อนหน้านี้ได้ร้องเรียนไปยัง
อบต.ยางสีสุราช อบต.ได้แจ้งว่าไม่มีเงินมา
แต่ผู้สูงอายุบางรายก็ได้เงินผู้อยากจน 3 เดือนเป็นเงิน 1,500 บาท

พอมาถึงรัฐบาลชุดนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี
ประกาศให้ผู้สูงอายุได้รับเบี้ยยังชีพผู้ไม่มีรายได้ รายละ 500 บาท
ซึ่งเป็นโครงการเร่งด่วนทำให้ผู้สูงอายุดีใจและคิดว่าผู้สูงอายุที่ยังไม่
ได้รับเงินจะได้รับเงินจึงได้อดทนรอ

ต่อมาเมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมา อบต.ได้เอาผ้าขนหนูมาให้ 2 ผืน
บอกว่าเงินยังไม่มา คนพิการมา 10
กว่าปีก็ยังไม่เคยได้เงินคนพิการและเงินเบี้ยยังชีพเลย
ซึ่งจะได้แต่ญาติคนใกล้ชิดของ อบต.มีผู้มาขึ้นทะเบียนประมาณ 600 คน
แต่ได้รับเบี้ยผู้สูงอายุประมาณ 160 คน
ซึ่งได้เคยร้องเรียนไปทางจังหวัดทางอำเภอตั้งแต่ต้นปี 51
จนถึงทุกวันนี้ก็ไม่มีอะไรเกิดขึ้นเลย
แต่ชาวบ้านคนแก่แม้แต่กล้วจะกินยังไม่มี วัดทางอำเภอตั้งแต่ต้นปี 51
จนถึทุกวันนี้ก็ไม่มีอะไรเลย

นางบุญดี เพียรอดวงษ์ อายุ 70 ปี อยู่บ้านเลขที่ 76 ม.2 บ้านสนาม
ต.ยางสีสุราช อ.ยางสีสุราช จ.มหาสารคาม กล่าวว่า
ตนเองเป็นผู้พิการทางสายตา มองไม่เห็นมากว่า 4 ปีแล้ว
ซึ่งได้ขึ้นทะเบียนผู้พิการแล้วแต่ยังไม่เคยได้รับเงินเบี้ยยังชีพเลย
และเงินคนพิการก็ไม่ได้รับ
ซึ่งได้เคยถ่ายเอกสารสำเนาเพื่อขึ้นทะเบียนขอรับเงินผู้สูงอายุและผู้พิการ
ไว้แล้ว แต่ไม่เคยได้รับเงิน

นายทราย ปิตังสโน อายุ 70 ปี บ้านสนาม ต.ยางสีสุราช อ.ยางสีสุราช
จ.มหาสารคาม เล่าว่า ตนเองอายุ 70 ปี
ซึ่งเคยขึ้นทะเบียนผู้สูงอายุไว้เช่นกันแต่ไม่เคยได้รับเงินเลยได้รับแต่ผ้า
ห่ม และผ้าขนหนู

ด้าน นายธีรวัฒน์ ทุมดี นายกองค์การบริหารส่วนตำบลยางสีสุราช
อ.ยางสีสุราช จ.มหาสารคาม ชี้แจงว่า
ตามที่รัฐบาลมีนโยบายจ่ายเบี้ยยังชีพให้กับผู้สูงอายุที่มีอายุ 60
ปีขึ้นไปเพื่อเป็นของขวัญผู้สูงอายุในวันที่ 13 เมษายน 2552
ในขณะนี้พึ่งได้รับหนังสือจากทางอำเภอเมื่อวันที่ 12 พฤษภาคม 2552

หลังจากได้รับหนังสือแล้วก็ทำหนังสือชี้แจงไปยังกำนัน
ผู้ใหญ่บ้านในเขตรับผิดชอบว่าผู้ที่มีอายุ 60
ปีขึ้นไปที่ลงทะเบียนไว้กับทาง อบต.ยางสีสุราช จ.มหาสารคาม
ยังมีชีวิตอยู่หรือเปล่า และให้ทางกำนัน ผู้ใหญ่บ้านตอบกลับมายัง อบต.
และจะทำเรื่องเบี้ยยังชีพที่มีชีวิตทั้งหมด
ถึงจะนำเอาเงินไปจ่ายให้กับผู้ที่มีชีวิตอยู่ต่อไป

พบคนไทยเกิดมาพิการปากแหว่งเพดานโหว่นับแสนราย

มหาสารคาม - โรงพยาบาลมหาสารคาม ร่วม แพทย์ รพ.จุฬา ผ่าตัดปากแหว่ง
เพดานโหว่ และความพิการอย่างอื่น ตามโครงการ "ยิ้มสวย เสียงใส"
เพื่อถวายเป็นพระราชกุศล สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา สยามบรมราชกุมารี
พบประชากรกว่าแสนคนเกิดมาพร้อมความพิการปากแหว่ง เพดานโหว่

ที่ห้องประชุมตักสิลา โรงพยาบาลมหาสารคาม นายทองทวี พิมเสน
ผู้ว่าราชการจังหวัดมหาสารคาม
เป็นประธานเปิดโครงการยิ้มสวยเสียงใสเทิดพระเกียรติ
สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี
และโครงการศัลยกรรมตกแต่งแก้ไขปากแหว่ง เพดานโหว่ และความพิการอื่นๆ
โดยมีผู้ป่วยปากแหว่ง เพดานโหว่ และความพิการอื่นๆ ร่วมงานกว่า 200 คน

โดยความพิการปากแหว่ง-เพดานโหว่นี้สามารถตรวจพบและให้การวินิจฉัยได้
ง่ายตั้งแต่แรกเกิด
แต่มักพบว่าการละเลยและความล่าช้าในการดูแลรักษาทำให้เกิดปัญหาและภาวะ
แทรกซ้อนหลายประการ เช่น การดูดนม และรับประทานอาหารลำบาก
ภาวะปอดอักเสบจากการสำลัก หูน้ำหนวก ความผิดปกติในการสื่อสาร

ทั้งรูปลักษณ์ที่ผิดปกติทำให้เกิดปมด้อย และมีพัฒนาการด้านต่างๆ
ช้ากว่าเด็กทั่วไปทั้งๆ ที่มีระดับสติปัญญาปกติ


ทั้งนี้ ในการผ่าตัดได้รับความร่วมมือจากคณะศัลยศาสตร์
ภาควิสัญญีวิทยา จุฬาลงกรณ์มหาสารคาม ผ่าตัดแก้ไขปากแหว่ง เพดานโหว่
และความพิการอื่นๆ เช่น แผลเป็นจากไฟไหม้ น้ำร้อนลวก นิ้วติด นิ้วเกิน
เพื่อถวายเป็นพระราชกุศล สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี
เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมายุ 50 พรรษา
ซึ่งจะช่วยให้ผู้ป่วยที่ได้รับการผ่าตัด
ไม่ก่อให้เกิดปัญหาในการดำรงชีวิตอยู่ในสังคม
ทั้งนี้พบว่าคนไทยที่เกิดมาพร้อมกับความพิการปากแหว่ง
เพดานโหว่มีตัวเลขสูงนับแสนคน

วันอังคารที่ 19 พฤษภาคม พ.ศ. 2552

อนาถ! รัฐหนุนเรียนฟรี แต่โรงเรียนหนองเดิ่น ไม่มีแม้โต๊ะ-เก้าอี้

มหาสารคาม - พบโรงเรียนในชนบท อำเภอเชียงยืน จังหวัดมหาสารคาม
ขาดแคลนโต๊ะ เก้าอี้ รวมทั้งอุปกรณ์การเรียน
นักเรียนต้องนั่งเรียนกับพื้นกระดาน
วอนหน่วยงานราชการให้การช่วยเหลือด่วน

ในช่วงนี้ทุกโรงเรียนได้เปิดเทอมเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
โดยที่โรงเรียนบ้านหนองเดิ่น ตำบลเหล่าบัวบาน อำเภอเชียงยืน
จังหวัดมหาสารคาม ซึ่งเป็นโรงเรียนที่อยู่ในชนบท
เด็กนักเรียนที่ไปเีรียนหนังสือต้องประสบปัญหาไม่มีโต๊ะเก้าอี้ในห้องเรียน
ส่วนอาคารเรียนก็ีสภาพเก่าทรุดโทรม
เด็กนักเรียนต้องนั่งเรียนกับพื้นไม้กระดาน ซึ่งสร้างความลำบาก
ทำให้บางครั้งไม่มีสมาธิเรียน

นายอุไร โสครู ครูประจำชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 กล่าวว่า
โรงเรียนแห่งนี้เปิดทำการเีรียนการสอนให้กับนักเรียนในบ้านหนองเดิ่นตั้งแต่
พ.ศ.2514 จนถึงในวันนี้เป็นระยะเวลากว่า 30 ปี
เมื่อก่อนโรงเรียนแห่งนี้มีนักเรียนเข้ามาเรียนกว่า 100 คน
แต่เมื่อช่วงหลังโรงเรียนมีสภาพทรุดโทรม นักเรียนก็ลดน้อยลง
เพราะไปเรียนโรงเรียนอื่นกันหมด

สำหรับอาคารเรียนที่ตนกำลังสอนอยู่นี้สร้างมาตั้งแต่เมื่อโรงเรียน
เปิดใหม่ๆ จนถึงวันนี้ยังไม่ได้ซ่อมแซม
เนื่องจากทางโรงเรียนไม่มีงบประมาณในการก่อสร้าง
อาคารก็ทรุดโทรมตามกาลเวลา

ก่อนหน้านี้
ทางโรงเรียนได้ยื่นหนังสือไปยังจังหวัดเพื่อของบประมาณมาซ่อมแซม
แต่ได้รับการตอบกลับว่ายังไม่มีงบประมาณ โดยให้รอไว้ก่อน
ซึ่งอาคารเรียนหลังนี้มีห้องเีรียนทั้งหมด 6 ห้องเรียน
แต่ต้องปิดห้องเรียนจำนวน 3 ห้อง เนื่องจากสภาพที่ทรุดโทรม
ฝากั้นห้องผุพัง มีปลวกกิน หน้าต่างก็หลุดหาย
ทำให้ไม่สามารถทำการเรียนการสอนได้
จึงอยากให้หน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้องเข้ามาช่วยเหลือ ให้เด็กนักเรียน
ได้มีโต๊ะเก้าอี้ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญในการเรียน
เด็กนักเรียนจะได้มีสมาธิในการเรียน

มหาสารคามรณรงค์ตลาดสดสะอาด

มหาสารคาม - เทศบาลเมืองมหาสารคาม ร่วมกับโรงพยาบาลมหาสารคาม
จัดโครงการตลาดสะอาด ผู้ประกอบการสุขภาพดี ชีวีมีสุข
เน้นผู้ประกอบจำหน่ายอาหารสด สะอาด ปราศจากเชื้อโรค

ที่ตลาดสดเทศบาลเมืองมหาสารคาม นพ.กิตติศักดิ์ คณาสวัสดิ์
นายกเทศมนตรีเมืองมหาสารคาม พร้อมด้วยนายแพทย์ไพบูลย์ อัศวธนบดี
รองผู้อำนวยการโรงพยาบาลมหาสารคาม และคณะผู้บริหาร
จัดเสวนาโครงการตลาดสะอาด ผู้ประกอบการสุขภาพดี ชีวีมีสุข
เพื่อให้ผู้ประกอบการร้านค้าในตลาดสดเทศบาลเมืองมหาสารคามกว่า 100 แผง
ได้ร่วมรับฟังและแสดงความคิดเห็นในการพัฒนาตลาดสดเทศบาลเมืองมหาสารคาม
ให้มีคุณภาพ มีความสะอาด

โดยเฉพาะร้านจำหน่ายอาหารสดและอาหารแห้ง รวมถึงผลไม้ต่างๆ
ตลอดจนการดูแลรักษาตลาดสด การทำความสะอาดตลาด
เพื่อไม่ให้เป็นแหล่งเพาะพันธุ์เชื้อโรค และสัตว์ที่เป็นพาหะนำโรคต่างๆ
มาสู่คน

นายแพทย์ กิตติศักดิ์ คณาสวัสดิ์
นายกเทศมนตรีเทศบาลเมืองมหาสารคาม กล่าวว่า
ตลาดสดเป็นสถานที่จำหน่ายอาหารพื้นฐานที่บุคคลนำไปจับจ่ายเพื่อนำมาประกอบ
ปรุงอาหาร หรือเพื่อนำไปจำหน่ายตามแหล่งอื่นต่อไป จนถึงมือผู้บริโภค
การสะสมสินค้าต่างๆเป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะอาหารสดไม่ว่าจะเป็น
ผักผลไม้เนื้อสดชนิดต่างๆ อาจทำให้เกิดความสกปรก
ความไม่เป็นระเบียบเรียบร้อยเป็นแหล่งที่อยู่ของแมลงละสัตว์นำโรค เช่น
แมลงวัน หนู แมลงสาบ

ซึ่งมีแนวโน้มจะก็ให้เกิดการกระจายของโรคในระบบทางเดินอาหารได้
ตลาดจึงนับเป็นตัวแปลสำคัญที่กำหนดความปลอดภัยของอาหารที่มีต่อผู้บริโภค
จึงมีความจำเป็นที่อาหารต้องสะอาด มีคุณภาพ
และได้มาตรฐานเพื่อป้องกันการปนเปื้อนของเชื้อโรคจากสิ่งแวดล้อมลงสู่อาหาร
และผู้ประกอบการควรดูแลในเรื่องความสะอาด และคุณค่าของอาหารให้มีคุณภาพ
เพื่อให้ผู้บริโภคมีความมั่นใจในการเลือกซื้ออาหารที่ปลอดภัยไปรับประทานใน
ครัวเรือน