วันพุธที่ 10 มิถุนายน พ.ศ. 2552

พิลึก! สพท.เขต 3 มหาสารคามสั่งสอบครูให้ข่าว ร.ร.หนองเดิ่นขาดแคลนโต๊ะ-เก้าอี้

มหาสารคาม - ชาวบ้านรวมตัวเรียกร้อง สพท.มค.เขต 3
กรณีตั้งกรรมการสอบสวนครู หลังให้ข่าวสื่อมวลชนกรณีโรงเรียนขาดแคลนโต๊ะ
เก้าอี้ ที่ใช้ในการเรียนการสอน
ชาวบ้านติดใจคำพูดคณะกรรมการสอบสวนถามครูเอาสมองส่วนไหนคิดที่ไปให้สัมภาษณ์
ผู้สื่อข่าวในเรื่องไม่ดี ทำให้เขตพื้นทีเสียหาย

เื่มื่อเวลา 10.30 น.วันนี้ (9 มิ.ย.)
ได้มีชาวบ้านและตัวแทนผู้ปกครองนักเรียนจากโรงเรียนบ้านหนองเดิ่น ต.นาทอง
อ.เชียงยืน จ.มหาสารคาม กว่า 50 คน นำโดย นายถวิล สีทอนสุด
กรรมการหมู่บ้านและกรรมการสถานศึกษาโรงรียนบ้านหนองเดิ่น
เดินทางเข้ายื่นหนังสือขอความเป็นธรรมกับสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา
(สพ.) มหาสารคาม เขต 3 อ.โกสุมพิสัย จ.มหาสารคาม

กรณีที่ครูและกรรมการสถานศึกษาโรงเรียนบ้านหนองเดิ่น
ถูกสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา(สพท.) มหาสารคาม เขต 3 อ.โกสุมพิสัย
ตั้งกรรมการสอบสวน
หลังจากออกมาให้ข่าวกับสื่อมวลชนกรณีโรงเรียนบ้านหนอเดิ่น ขาดแคลนโต๊ะ
เ้ก้าอี้ และอุปกรณ์การเรียนการสอน

นายถวิล สีทอนสุด กรรมการสถานศึกษาโรงเรียนบ้านหนองเดิ่น กล่าวว่า
การที่คณะครูและกรรมการสถานศึกษาของโรงเรียนออกมาให้ข่าวกับสื่อมวลชน ว่า
โรงเรียนขาดแคลนงบประมาณจัดซื้อโต๊ะเก้าอี้ และอุปกรณ์การเรียนการสอน
เพราะสงสารเด็กและลูกหลานที่เรียนตามมีตามเกิด
ก็เพื่อหวังว่าอาจมีผู้มีจิตศรัทธา
หรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องยื่นมือเข้ามาช่วยเหลือบ้าง

เพราะสงสารลูกหลานที่เรียนตามมีตามเกิด
ไม่มีโ๊ต๊ะเก้าอี้นั่งเรียนหมือนโรงเรียนอื่น เด็กๆ ไม่มีสมาธิเรียน
ซึ่งไม่ได้มีเจตนาอื่นใดแอบแฝง แต่กลับถูกสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา
(สพท.) มหาสารคาม เต 3 อ.โกสุมพิสัย
สั่งตั้งกรรมการสอบสวนเอาผิดกับคณะครูโรงเรียนบ้านหนองดิ่นทุกคน

จึงอยากมาเรียกร้องขอความเป็นธรรม การที่ครูให้ข่าวออกไปแบบนั้น
ผิดกฎระเบียบข้อไหน ทำไมต้องมาตั้งคณะกรมการสอบสวนด้วย
อีกทั้งตอนลงพื้นที่ไปดูสภาพโรงเรียน ได้มีเจ้าหน้าที่บางคนพูดจาไม่สุภาพ
ถามครูผู้สอนว่าเอาสมองส่วนไหนคิดที่ไปให้ข่าวกับผู้สื่อข่าวแบบนั้น
ทำให้เขตพื้นที่การศึกษาได้รับความเสียหาย เสื่อมเสียชื่อเสียง

ทั้ง ที่ข้อมูลที่ครูผู้สอนได้ให้ผูื้่สื่อข่าวไปนั้น
ล้วนแต่เป็นข้อมูลจริง และไม่ได้มีเจตนาอื่นแอบแฝง
เพียงแต่อยากให้ลูกหลานไดี้มีอุปกรณ์การเรียนเหมือนโรงเรียนอื่นเท่านั้น

ด้าน นายชัยณงค์ แหงคำ รองผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา
(สพท.) มหาสารคาม เขต 3 อ.โกสุมพิสัย จ.มหาสารคาม กล่าวว่า
กรณีัดังกล่าวน่าจะเป็นเรื่องเข้าผิดหรือสื่อความหมายไม่ถูกต้อง
การที่สั่งตั้งกรรมการสอบสวนคณะครูโรงเรียนบ้านหนองเดิ่นนั้น
ไม่ใช่จะเอาผิดกับครู
แต่เป็นการตั้งกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงว่าโรงเรียนต้องการหรือขาดเหลืออะไร
เพราะทางสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา (สพท.) มหาสารคาม เขต 3
อ.โกสุมพิัสัย ก็มีแผนจะพัฒนาโรงเรียนขนาดล็กให้มีประสิทธิภาพ ได้มาตรฐาน

ยืน ยันว่า เราไม่ได้ทอดทิ้งแต่อย่างใด
เพียงแต่ลงไปตรวจสอบเพื่อรับทราบสภาพปัญหาข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นในโรงเรียน
เท่านั้น ซึ่งจะได้เรียกประชุมผู้อำนวยการโรงเรียนในพื้นที่เขต 3
เพื่อหารือในการจัดการเรียนการสอนสำหรับโรงเรียนขนาดเล็ก
ให้เป็นไปในแนวทางเดียวกันต่อไป ส่วนข้อเรียกร้องอื่นๆ
ทีื่่ยื่นมาจะได้นำเสนอต่อผู้บังคับบัญชาต่อไป

7 ความคิดเห็น:

  1. ไม่แปลกใจเลยที่เป็นอย่างนี้ ก็เข้าใจว่าระบบราชการไทยมีแต่เรื่องแย่ ๆๆ แค่นี้ก็สื่อสารกันไม่รู้เรื่อง เหมือนยิ่งเรียนยิ่งโง่ไม่รู้ว่าบริหารกันอย่างไร สอนอย่างไร ถึงได้ตกต่ำมากขนาดนี้ ไม่อยากคิดเลยว่าทั้งประเทศใช้เวลาทำงานเวลาราชการไปกับการแดกเหล้ากันหมด

    ตอบลบ
  2. ไม่ระบุชื่อ9 มกราคม 2553 เวลา 20:48

    ความจริงก็คือความจริง คงเข้าทำนอง"ปากว่าตาขยิบ"เขตทอดทิ้งโรงเรียนขนาดเล็กและดูแลโรงเรียนขนาดใหญ่ เพราะโรงเรียนขนาดใหญ่ มีทั้งคนและเงิน ผู้บริหารก็เส้นใหญ่ "แม้แต่ ผอเขต ยังต้องเกรงใจ โรงเรียนขนาดเล็กน่ะ เขตถามเขาดูหรือไม่ว่า"คอมพิวเตอร์น่ะเขามีกันกี่เครื่อง และได้มาด้วยวิธีการใด"(ก็จำนวนเด็กมันน้อย เงินรายหัวก็น้อยตามไปด้วย จะทำอย่างไรได้นอกจากช่วยเหลือตัวเอง) เขตตอบได้ไหม ว่าจะช่วยเขาอย่างไร ในเมื่อประกาศปาว ๆ ว่า"ICT ๆๆๆๆๆ" และขวัญกำลังใจโรงเรียนขนาดเล็กน่ะได้รับจากหน่วยเหนือสักเท่าไหร่กันเชียว เขาอยู่กัน สอนกันตามมีตามเกิด ก็ถูกต้องแล้วนี่ "แล้วไง เขตกลัวเสียหน้า"ความจริงมันก็คือ เขตไม่เคยลงไปดูแลเขานั่นเอง ถาม ผอ.เขต หรือบรรดารอง ๆ ทั้งหลายดูซิว่า"โรงเรียนบ้านหนองเดิ่น ไปทางไหน"บอกให้ก็ได้"ไม่รู้จัก"แต่พอตกเป็นข่าว ก็กุลีกุจอทำทีเป็น เอาใจใส่ แถมตั้งกรรมการสอบสวนคนที่ให้ข้อมูลจริงแก่ผู้สื่อข่าว แหม่ ยังมีน่ามาบอกได้ว่าสอบหาเพื่อจะได้รู้ว่าโรงเรียนต้องการอะไรเพิ่มเติม"การที่สั่งตั้งกรรมการสอบสวนคณะครูโรงเรียนบ้านหนองเดิ่นนั้นไม่ใช่จะเอาผิดกับครูแต่เป็นการตั้งกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงว่าโรงเรียนต้องการหรือขาดเหลืออะไร"น่าชื่นใจตายหละ จริงๆแล้วน่าจะแสดงความชื่นชมในความกล้าของเขามากกว่าที่กล้ายอมรับอย่างลูกผู้ชายตัวจริง"มีคือมี ไม่มีคือไม่มี" การดูแล ใช่แต่เพียงว่าให้งบประมาณรายหัว และหรือจ่ายเงินเดือนให้ครูเท่านั้นนะท่าน ยังมีอีกมากมายและผมเชื่อว่า โรงเรียนขนาดเล็กที่ประสบปัญหาแบบนี้ยังมีอีกและอยู่ในเขต 3 นั่นแหละ ก็ขอเป็นกำลังใจให้โรงเรียนขนาดเล็กด้วยก็แล้วกัน "จริงใจนะไม่ใช่แบบแอบ ๆ เหมือน เขต 3 หรอก"คอยดูกันต่อไปว่าเขาจะหลอกอะไรเราอีก ยังมีอีกหลายเรื่องที่อืมครืม เอาไว้ว่าง ๆ จะเข้ามาโพสใหม่ โชคดีนะพี่น้องร่วมชะตาเดียวกันและพีน้องชาวหนองเดิ่นทุก ๆ คน"
    จาก"คน(เล็ก)เหมือนกัน"

    ตอบลบ
  3. ไม่ระบุชื่อ9 มกราคม 2553 เวลา 20:51

    "ขอคุณคณะทำงาน"อย่างน้อยก็ต้องเปิดให้โลกรู้บ้าง ไม่งั้น"มันจุกอกตายแน่" จาก"คน(เล็ก)เหมือนกัน

    ตอบลบ
  4. ไม่ระบุชื่อ30 มีนาคม 2553 เวลา 14:26

    ผู้บริหาร เขต 3 ควรให้ความสำคัญกับโรงเรียนขนาดเล็กที่อยู่ห่างไกลด้วยความเป็นธรรมและเสมอภาคกัน อย่าเอาแต่ประโยชน์ส่วนตัว ให้โอกาสเด็กบ้าง

    ตอบลบ
  5. ไม่ระบุชื่อ28 เมษายน 2553 เวลา 11:11

    น่าเห็นใจโรงเรียนขนาดเล็ก อย่าไปตำหนิครูและชาวบ้านเลย ดูที่เจตนาเขาดีกว่า สงสารเด็กๆ และกำลังใจของครู สู้..สู้..ต่อครับ..ขอเป็นกำลังใจให้..

    ตอบลบ
  6. ไม่ระบุชื่อ2 ตุลาคม 2553 เวลา 16:33

    นายสถาพร หยองเอ่น ผอ.เขต 3 เคยลงไปดูบ้างไหม แถมยังอาฆาตผู้บริหารโรงเรียนขอค่าตอบแทนวิทยากรภายนอกยังไม่ให้ รายกับเงินพ่อของมัน ทีทุจริตเงินหลวงทำเป็นกระมิดกระเมี้ยน

    ตอบลบ
  7. ไม่ระบุชื่อ13 ตุลาคม 2554 เวลา 07:32

    น่าสงสารประเทศไทย และเด็กไทย

    ตอบลบ